‘เคทีซี พี่เบิ้ม’ ลุยธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ เจาะกลุ่มคนทุกอาชีพ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 64 โต 1,000 ล้านบาท
นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ – ธุรกิจสินเชื่อ เคทีซี พี่เบิ้ม บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีได้มองหาโอกาสทางธุรกิจที่จะเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ให้กับบริษัทฯ และตอบโจทย์กับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงฉับไว จึงได้เปิดตัวเคทีซี พี่เบิ้ม ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน โดยถือเป็นครั้งแรกที่เข้าสู่ธุรกิจประเภทดังกล่าวอย่างจริงจัง เนื่องจากมองเห็นโอกาสชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อประเภทที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ที่มีมูลค่าสินเชื่อคงค้างในระบบ 138,000 ล้านบาท และมีสินเชื่อที่ไม่ได้เข้าระบบในตลาดอีกกว่า 400,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปี 2564 จะมีพอร์ตสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท จากในช่วงทดลอง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี และมียอดสินเชื่อแล้วประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2563 พอร์ตสินเชื่อจะทำได้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท เบื้องต้นจะดำเนินการผ่านช่องทางสาขาธนาคารกรุงไทย 20 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีแผนที่จะขยายต่อไปในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าด้วยช่องทางและพันธมิตรที่แข็งแกร่งของเคทีซีจะช่วยหนุนการปล่อยสินเชื่อได้เป็นอย่างดี
นางสาวเรือนแก้ว กล่าวว่า เคทีซี พี่เบิ้ม มีจุดเด่นและความแตกต่างในการทำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ โดยใช้หลักการ“Digital Twin” คือ การนำเทคโนโลยีผสมผสานการทำงานของคนในการให้บริการสินเชื่อ เพื่อช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อมี ความง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ด้วยการรับสมัครสินเชื่อผ่านระบบแอพพลิเคชันบนแท็ปเลต โดยเจ้าหน้าที่เคทีซีจะสามารถทำรายการสินเชื่อให้กับลูกค้าได้ถึงที่หมาย แบบที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปที่สาขา และลูกค้าจะทราบผลการอนุมัติ พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีทันทีภายในระยะเวลาทำรายการเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เงินได้ทันตามความต้องการ เพราะเข้าใจว่า ในภาวะที่กำลังเดือดร้อน ไม่สามารถรออะไรได้ ในสภาวะปัจจุบันปัจจัยทางเศรษฐกิจและมาตรการข้อบังคับต่างๆ ในฐานะผู้เข้ามาเริ่มทำธุรกิจ ถือว่ามีความท้าทายสูงในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมนี้ แต่ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลในหลายมิติ และการติดตามทำความเข้าใจกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชิงลึกอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ประกอบกับโครงสร้างการทำธุรกิจ และระบบการบริหารจัดการด้านปฏิบัติการและเครือข่ายที่เป็นจุดแข็งของเคทีซี เชื่อว่าจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจในเร็วๆ นี้
“ความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ มีการจำกัดความเสี่ยงด้วยการประเมินคุณสมบัติของลูกค้า ว่ามีการประกอบอาชีพจริง แม้ว่าจะยินดีรับทุกอาชีพก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอนุมัติให้กับลูกค้าทุกราย ในการติดตามหนี้ของลูกค้าจะเป็นการติดตามเพื่อทวงถามมากกว่า ไม่ได้เป็นการเข้าไปยึดสิทธิถือครองรถของลูกค้า เพราะไม่ได้มีการโอนเล่มอยู่แล้ว” นางสาวเรือนแก้ว กล่าว
นางสาวธิดา บุณยเลขา ผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” กล่าวถึงว่า กลยุทธ์การทำธุรกิจของเคทีซี พี่เบิ้ม จะใช้จุดแข็งเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายของเคทีซีในการรุกตลาด โดยมุ่งเน้นให้บริการรับสมัครและอนุมัติสินเชื่อถึงที่ หรือ พี่เบิ้ม ดิลิเวอรี่ แทนที่จะใช้โมเดลการขยายสาขาอย่างผู้ประกอบการรายอื่น จึงสามารถทำรายการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามจุดนัดพบที่ลูกค้าสะดวก ไม่เว้นวันหยุด ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ โดยล่าสุดได้ร่วมกับ “ลาล่ามูฟ” เปิดให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ในเครือข่ายของลาลามูฟ ประเทศไทย สามารถเข้าถึงสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและสินเชื่อเงินสดได้สะดวกรวดเร็ว เพียงใช้ข้อมูลการรับงานจากลาล่ามูฟยื่นสมัครสินเชื่อ แทนสลิปเงินเดือนและเอกสารทางการเงิน โดยได้รับการตอบรับที่ดี และจะขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไป โดยสิ่งที่โดดเด่นของสินเชื่อทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม” คือ การทำทุกอย่างให้ง่ายและลดภาระความยุ่งยากของลูกค้าในการเข้าถึงสินเชื่อให้มากที่สุด ด้วย 3 จุดแข็งที่แตกต่างจากตลาด คือ วงเงินใหญ่สูงสุดถึง 700,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ เริ่มต้นเพียง 0.98% ต่อเดือน หรือเท่ากับ 21% ต่อปีแบบลดต้นลดดอก อนุมัติถึงที่ รู้ผลใน 2 ชั่วโมงพร้อมรับเงินทันที เอกสารไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนหรือทะเบียนการค้า รวมถึงผู้ขอสินเชื่อยังสามารถนำรถไปใช้ต่อได้ทันที โดยที่ชีวิตไม่สะดุดด้วย
นายวรพงศ วงษ์กะพันธ์ ผู้จัดการธุรกิจสินเชื่อ เคทีซี พี่เบิ้ม กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายคือคนทุกกลุ่มอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ เจ้าของกิจการ พ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีสัญชาติไทย อายุ 20-65 ปี รายได้ตั้งแต่8,000 บาทขึ้นไป ประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน สำหรับเจ้าของกิจการ พ่อค้า แม่ค้า ต้องดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และต้องเป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่มีทะเบียนเล่มเป็นชื่อของผู้ขอสินเชื่อ โดยสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ “สำหรับผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ ไม่จำกัดอายุรถ วงเงินอนุมัติสูงสุด 700,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น21% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 60 เดือน ส่วนสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ สำหรับผู้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ ไม่จำกัดอายุรถ วงเงินสูงสุด 150,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 24% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 60 เดือนเช่นกัน
