ประมงปัตตานีหายใจรวยริน พิษไอยูยูทำเรือกว่า 500 ลำจอดนิ่ง วอนรัฐรับซื้อไปจมทำปะการังเทียม

ประมงปัตตานีหายใจรวยริน พิษไอยูยูทำเรือกว่า 500 ลำจอดนิ่ง วอนรัฐรับซื้อไปจมทำปะการังเทียม

เรือประมงที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู)ของสหภาพยุโรปแลกกับการยกเลิกแบนสินค้าประมงไทย เป็นปัญหาเรื้อรังสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวประมงสาหัส ต้องหยุดออกเรือขาดรายได้ และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลเรือ จึงมีความพยายามเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน และเสนอแนวทางลดผลกระทบจากคนประมงที่ต้องเลิกกิจการให้สามารถพยุงตัวต่อไปได้

นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า จากปัญหาสะสมทำให้ปัจจุบันกองเรือประมงปัตตานี 1,016 ลำ มีเพียง 40% ที่ยังประคองตัวและออกทะเลได้ ส่วนอีก 60% ไม่พร้อมออกทะเลและเริ่มแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวจอดนิ่งตามท่าเรือ ในจำนวนนี้ 514 ลำ จะเลิกกิจการและร้องขอให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือรับซื้อเรือเพื่อนำไปทำปะการังเทียมใต้ทะเล เป็นแหล่งสร้างบ้านปลา และแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคใต้ต่อไป

“เฟสแรกที่เดือดร้อนหนักสุดจำนวน 220 ลำ เสนอให้รัฐบาลรับซื้อด้วยงบประมาณ 700 ล้านบาท ข้อเสนอนี้รัฐบาลสามารถทำได้ เพราะในแต่ละปีรัฐบาลจะมีงบประมาณเพื่อซื้อแท่นปูนหรือวัตถุทิ้งทะเลเพื่อสร้างปะการังเทียมใต้ทะเล ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาทอยู่แล้ว” นางอันน์เกตุกล่าว

นางอันน์เกตุ กล่าวว่า ต้องการให้การรับซื้อประมงที่มีประสบปัญหาไปทำกองเรือปะการังเทียมใต้ทะเลของปัตตานี เป็นการนำร่องและต้นแบบให้พื้นที่ทะเลอื่นได้ดำเนินการ และการใช้เรือจากไม้เป็นการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม และแนวทางนี้จะสร้างประโยชน์หลายด้าน ตั้งแต่ลดความเดือดร้อนชาวประมง สร้างอาชีพใหม่หลังเกิดปะการังในด้านการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เกิดการสร้างอาชีพเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และสร้างความยั่งยืนต่ออาชีพประมง อยากให้รัฐคำนึงถึงวิถีประมง ขณะนี้ประมงต้องการ 2 เรื่อง คือลดภาระชาวประมงที่ไม่อาจแบกรับได้ไหวแล้ว โดยการรับซื้อเรือเก่ามาทำปะการังเทียม กับการเปิดให้เรือไทยตามชายแดนได้กลับมาทำอาชีพในทะเลไทย ซึ่งมีถึงกว่า 100 ลำ กำลังประสบปัญหาต้องเลิกกิจการและไม่อาจแบกรับภาระต่างๆ ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image