สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ส.ค.) ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว และกลับมายืนราคาเหนือ40ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง รวมถึงรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทำให้หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 18,355.00 จุด บวก 41.23 จุด หรือ 0.23% ดัชนี แนสแดค ปิดตลาดที่ระดับ 5,159.74 จุด บวก 22.01 จุด หรือ 0.43% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดตลาดที่ระดับ 2,163.79 จุด บวก 6.76 จุด หรือ 0.31%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส(WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา กลับมาฟื้นตัว ล่าสุดราคาส่งมอบงวดเดือนกันยายนปรับเพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 40.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกมาเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและการผลิตน้ำมันของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วปรับลดลง ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ที่ตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ปรับเพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ไปปิดตลาดที่ระดับ 43.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งช่วยทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาดลงไป
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(COMEX)ในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับลดลง 8.30 ดอลลาร์ ไปปิดตลาดที่ระดับ 1,356.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์