“ฟัลครัม ฯ” อัดแคมเปญทั้งลดทั้งแถม 10-11 ต.ค.นี้

“ฟัลครัม ฯ” อัดแคมเปญทั้งลดทั้งแถม 10-11 ต.ค.นี้

นายสมศักดิ์ ศรีคุรุวาฬ ผู้อำนวยการ บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังการเปิดตัวโครงการปลายปีที่แล้ว แม้ต้องเจอผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้โครงการมีการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เช่นเดียวกับทุกธุรกิจ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่พอใจ สามารถปิดการขายโครงการในเฟส1 รวมยอดขายมูลค่า 275 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทได้สานต่อการตลาด โดยจะจัดแคมเปญ Panara Savings Carnival วันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ที่ Sales Gallery เพื่อเปิดขายโครงการในเฟส 2 ต่อทันที โดยมีแพคเกจส่วนลดเงินสดสูงสุด 1.5 ล้านบาท พร้อมทั้งมอบของแถมภายในบ้านมูลค่าถึง 4 แสนบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอที่มาจากความเข้าใจในสถานการณ์เพื่อร่วมต่อสู้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ที่มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวมจนถึงเศรษฐกิจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเช่นกัน

“เราเปิดตัวโครงการปลายปีที่แล้ว ไม่นานเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบโดยรวมต่อคนทั้งโลกทุกภาคธุรกิจอย่างหนักแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนตามที่ทราบกัน เราประเมินเหตุการณ์และปรับตัวมาตลอด ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่าผลลัพธ์แห่งความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เราจึงปิดการขายเฟสแรกได้ และได้จังหวะที่จะเปิดขายเฟสสอง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะด้วยจุดแข็งหลายเรื่อง เช่น ทำเลโครงการติดถนนใหญ่เทพารักษ์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่สายหลักแบบหาได้ยากมากแล้วในโซนนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับจุดเด่นของโครงการได้ถูกดีไซน์สำหรับการอยู่อาศัยในแบบฉบับเอกสิทธิพิเศษเฉพาะผู้อยู่อาศัยโครงการพานารา เทพารักษ์ เท่านั้น ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่เหนือกว่า กับพื้นที่ชีวิตที่กว้างกว่าใคร” ทั้งฟังก์ชันการใช้งานของบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนรุ่นใหม่ การนำ IOT เทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกความเป็นอยู่ ยกระดับความปลอดภัยด้วยแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมต่อสัญญาณ Emergency บ้านทุกหลังกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครงการ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยกรณีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน การออกแบบวางผังโครงการที่มีความร่มรื่นภายในโครงการจากพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก รวมถึงการออกแบบเพื่อรองรับอนาคต เช่น มี EV-Charger สำหรับรถใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เป็นต้น

นายมิฮาย โอลเทียลนู หัวหน้าฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ กลุ่มผู้ร่วมทุนจากสิงคโปร์ มองว่าสถานการณ์พัฒนาที่อยู่อาศัยในไทยยังมีความเป็นไปได้ เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ยังมีความต้องการ แม้ที่ผ่านมาจะพบกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักพอสมควร แต่โควิด-19 เป็นวิกฤตที่ส่งผลต่อทุกภาคส่วนธุรกิจทั่วโลก และขณะนี้บริษัทได้คลี่คลายสถานการณ์ไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นกลุ่มกรีนฟิลด์ฯ จะยังคงเดินหน้าร่วมลงทุนในโครงการต่อไปอย่างแน่นอน โดยมีแผนงานจะเปิดตัวโครงการใหม่ภายในปีนี้อีกหนึ่งโครงการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image