ไปรษณีย์ไทย แจ้งค่าบริการใหม่ไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ พร้อมยกมาตรฐาน – ความปลอดภัยทุกปลายทางทั่วโลก
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 22 ปี ไปรษณีย์ไทยยังคงอัตราค่าบริการและรูปแบบการให้บริการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมจดหมาย ของตีพิมพ์ ไปรษณียบัตร พัสดุย่อยที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ทั้งขนส่งทางภาคพื้น ทางอากาศราคาประหยัดและทางอากาศ โดยไม่ได้เรียกเก็บเพิ่มจากผู้ใช้บริการแม้ต้นทุนจากประเทศปลายทางจะเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
แต่เพื่อช่วยให้การส่งเอกสาร สิ่งของหรือสินค้าไปต่างประเทศเป็นไปตามมาตรฐานทั่วโลก จึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบการให้บริการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ ซึ่งทุกการปรับเปลี่ยนไปรษณีย์ไทยคำนึงถึงผลกระทบของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผู้รับหน้าที่ส่งมอบความสุขความห่วงใยจากคนไทยสู่ต่างแดนได้อย่างมีคุณภาพและคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลกับทุกประเทศปลายทาง ทำให้การไปรษณีย์แต่ละประเทศสามารถควบคุมมาตรฐานการจัดส่งและการคัดแยกประเภทสิ่งของได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยการปรับรูปแบบบริการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศที่จะเปลี่ยนไปในครั้งนี้ อาทิ การวัดขนาดซองจดหมาย ของตีพิมพ์ด้วยเครื่องมือวัดขนาดสิ่งของ (Format Indicator) จดหมายมีขนาดไม่เกิน 305×381 มม. และหนาไม่เกิน 20 มม. กระดาษต้องแยกเป็นแผ่นๆ ได้ ไม่เป็นรูปเล่มและไม่มีวัสดุอื่นปะปน จดหมาย ของตีพิมพ์ น้ำหนักเริ่มต้นที่ 20 กรัม และคิดเพิ่มพิกัดละ 10 กรัม พัสดุย่อยน้ำหนักเริ่มต้นที่ 50 กรัม และคิดเพิ่มพิกัดละ 50 กรัม ไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียนระหว่างประเทศน้ำหนักเริ่มต้นที่ 50 กรัมและคิดเพิ่มพิกัดละ 50 กรัม ราคาขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง คิดค่าธรรมเนียมพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Surcharge) เฉพาะบริการพัสดุย่อยทางอากาศ (Air) และบริการลงทะเบียนทางอากาศ (Air) 40 บาท / ชิ้น
ส่วนบริการจดหมายทางอากาศจะไม่เรียกเก็บ ปรับอัตราค่าบริการประเทศปลายทางสหรัฐอเมริกาตามข้อกำหนดของราคานำจ่ายภายในประเทศที่เรียกเก็บจากต้นทางทั่วโลก ปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศทางภาคพื้น ยกเลิกบริการจดหมาย ของตีพิมพ์ และพัสดุย่อยระหว่างประเทศทางอากาศราคาประหยัด (SAL) ทุกประเทศปลายทาง ซึ่งสามารถใช้บริการขนส่งทางอากาศแทนได้ โดยทั้งหมดนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในส่วนของบริการระหว่างประเทศอื่นๆ อาทิ Courier Post EMS World Logispost World ePacket ฯลฯยังคงให้บริการตามเงื่อนไขเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยไปรษณีย์ไทยจะรับหน้าที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างดีที่สุด สามารถตรวจสอบรายละเอียดการให้บริการและประเทศปลายทางที่ให้บริการขนส่งในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th หรือโทร. THP Contact Center 1545