เอกชนร้อง”ป.ป.ช.”สอบบิ๊ก”ธ.ก.ส.” ล้มประมูลโครงการระบบบริหาร”เอทีเอ็ม”ไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนกรณีบริษัท แพลท เนรา จำกัด ที่ชนะการประมูลโครงการจัดหาผู้ลงทุนระบบบริหารจัดการเอทีเอ็ม ของธ.ก.ส.วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกรรมการ ธ.ก.ส. โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ธ.ก.ส. ที่สั่งยกเลิกการประมูลโครงการโดยมิชอบ และยังมีพฤติกรรมเอื้อต่อบริษัทคู่แข่งอย่างชัดแจ้ง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 ธ.ก.ส.มีหนังสือมายังบริษัทเพื่อเชิญชวนยื่นข้อเสนอโครงการจัดหาผู้ลงทุนระบบบริหารจัดการเอทีเอ็ม ระยะเวลาโครงการ 7 ปี โดยต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์อื่นๆ รวมทั้งจัดหาบุคลากรบริหารจัดการทั้งระบบ กำหนดยื่นข้อเสนอภายในวันที่ 24 เมษายน 2563 และประกาศผลสิ้นเดือนเมษายน 2563 ต่อมาบริษัทเข้ายื่นข้อเสนอ เพราะเป็นผู้บริหารโครงการเอทีเอ็ม เดิมของธ.ก.ส. อยู่แล้วจึงมีความพร้อม กระทั่งบริษัทเป็นผู้ชนะประมูลมีคะแนนด้านเทคนิคเป็นอันดับ 1 และเข้าเจรจาต่อรองกับคณะกรรมการพิจารณาโครงการจนได้ข้อยุติ โดยบริษัทเสนอผลตอบแทนในรูปการประกันรายได้ให้ธ.ก.ส. ตลอดโครงการ 7 ปีรวมกว่า 4,000 ล้านบาท

“แต่ต่อมา ธ.ก.ส. มีหนังสือลงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 แจ้งขอยกเลิกโครงการดังกล่าว โดยอ้างว่าได้รับแจ้งจากบริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จัดหาผลิตภัณฑ์ ATM switching base 24 และการบำรุงรักษาว่าจะจำหน่ายระบบกับตัวแทนที่เป็นทางการ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลโครงการนี้ด้วยเท่านั้น จึงเชื่อว่าผู้ชนะการประมูลอาจไม่สามารถดำเนินโครงการได้สำเร็จ จึงขอยกเลิกโครงการ ทั้งที่บริษัทมีหนังสือแจ้งยืนยันไปยังประธานการพิจารณาคัดเลือกว่าสามารถดำเนินการจัดหาสิทธิในการใช้งานบำรุงรักษาและแก้ไขระบบคอมพิวเตอร์ได้ตามมาตรฐาน และตามเงื่อนไขทีโออาร์กำหนดได้อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ล่าสุดกระทรวงการคลัง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบด้วยเช่นกัน”แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า เดิม ธ.ก.ส.ไม่เคยมีประสบการณ์ในการลงทุนติดตั้งระบบเอทีเอ็ม มาก่อน จึงให้บริษัทเอกชนเข้ามาลงทุนแบบเบ็ดเสร็จ และแชร์ส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดขึ้น โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งที่ผ่านมาทำให้ ธ.ก.ส.มีรายได้รวมกว่า 2,500-3,000 ล้านบาท จากรายได้รวมกว่า 9,000 ล้านบาท ก่อนสัญญาเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ธ.ก.ส.จึงแสวงหารูปแบบการลงทุนโครงการนี้ใหม่ ก่อนได้ข้อสรุปจะให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้ลงทุนจัดหาระบบเช่นเดิม แต่จะให้มีการประกันรายได้ขั้นต่ำด้วย หลังเปิดประมูลด้วยวิธีพิเศษเชิญเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอโดยตรง กลับปรากฏว่า บริษัทแพลท เนรา จำกัด เป็นผู้ชนะประมูล แต่ฝ่ายบริหาร ธ.ก.ส.ไม่ต้องการบริษัทนี้ จึงหาเหตุผลยกเลิกโครงการ

Advertisement

“ทางบริษัทแพลท เนรา เตรียมจะยื่นเรื่องร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น มีชื่อคนที่เป็นแคนดิเดตผู้จัดการธ.ก.ส.ด้วย เพราะเป็นผู้ทำหนังสือสอบถามไปยังบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ก่อนที่ ธ.ก.ส.จะยกมาเป็นเหตุสั่งล้มโครงการ”แหล่งข่าวกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image