‘ไทยยูเนี่ยน’ จับมือ ‘คอร์เบียน’ ต่อยอดสาหร่ายดีเอชเอสูง เพื่อใช้ในการผลิตอาหารกุ้ง

{"source_sid":"7CD8856F-73F4-4C98-B2EE-FAFDE0FD26FB_1602494329434","subsource":"done_button","uid":"7CD8856F-73F4-4C98-B2EE-FAFDE0FD26FB_1602494329398","source":"other","origin":"gallery"}

ไทยยูเนี่ยนจับมือคอร์เบียนต่อยอดสาหร่ายดีเอชเอสูง เพื่อใช้ในการผลิตอาหารกุ้ง

นายแดเรียน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัท และบริษัท คอร์เบียน ผู้นำส่วนผสมในอาหารสัตว์ที่ผลิตจากสาหร่ายในตลาดโลก ได้ประกาศความร่วมมือในการต่อยอดพัฒนาอาหารกุ้งของไทยยูเนี่ยนด้วย สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ภายหลังมีการทดลองผลิตในปริมาณมากในปี 2562 โดยความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทนับเป็นก้าวสำคัญในวงการเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและบริษัทผู้ผลิตอาหารทะเลในการนำอาหารกุ้งที่มีความยั่งยืนมาใช้ในปริมาณที่มากขึ้น

ทั้งนี้ กุ้งนับเป็นสัตว์น้ำที่โตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะกุ้งเลี้ยง ซึ่งนับเป็นสัดส่วนถึง 55% ของการผลิตกุ้งในโลก จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนในภาคการเลี้ยงกุ้งให้เกิดขึ้นด้วยการต่อยอดการใช้สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ โดยบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทยยูเนี่ยนนั้นสะท้อนให้เห็นว่าไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญในการใช้ส่วนประกอบอาหารสัตว์ที่มีการผลิตที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีความยั่งยืนและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ ยังเป็นสาหร่ายที่มีโอเมก้า 3 สูงกว่าปริมาณที่พบในน้ำมันปลาถึง 2 เท่า สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอนี้ จึงนับเป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ที่สะอาดปลอดภัย ได้รับการผลิตอย่างยั่งยืน ด้วยกรรมวิธีการหมักด้วยน้ำตาลอ้อยที่ไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม การใช้สาหร่ายอัลจาไพรม์ ดีเอชเอ เข้ามาผลิตอาหารสัตว์ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้อาหารทะเลในการผลิต และเป็นส่วนผสมอาหารกุ้งทีมีสารอาหารสูง ช่วยในการเติบโตของกุ้งที่เพาะเลี้ยง

เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล จึงมองหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ตามกลยุทธ์ SeaChange® ของเรา ซึ่งความร่วมมือของไทยยูเนี่ยนกับคอร์เบียนได้ต่อยอดการจัดหาวัตถุดิบ เพื่อผลิตอาหารสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ โดยการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างรู้คุณค่า รวมไปถึงการเลือกใช้โปรตีนและน้ำมันทางเลือกในการผลิต ความร่วมมือกับคอร์เบียนนี้ ช่วยให้เราสามารถผลิตอาหารเลี้ยงกุ้งที่มีคุณค่าทางอาหารสูงสม่ำเสมอ มีห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใส ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในเครือข่ายของเรานายแดเรียนกล่าว

นายแดเรียนกล่าวว่า นโยบายด้านความยั่งยืนของไทยยูเนียน ที่ดำเนินงานตามแนวทางกลยุทธ์ SeaChange® นั้นทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดหาวัตถุกดิบอย่างมีความรับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ การนำสาหร่ายอัลจาไพรม์ ดีเอชเอ มาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ของไทยยูเนี่ยนนับเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะจัดหากุ้งที่ยั่งยืนให้กับตลาด

Advertisement

นายคริส ฮากค์ ผู้บริหารด้านธุรกิจสัตว์น้ำทั่วโลก บริษัท คอร์เบียน กล่าวว่า เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนในการใช้สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ มาใช้ในการผลิตอาหารเลี้ยงกุ้ง ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนา สาหร่ายอัลจาไพรม์ ดีเอชเอ นี้เพื่อตอบรับการอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยนับตั้งแต่ปี 2559 คอร์เบียนได้เริ่มผลิตสาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ ออกสู้ท้องตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการในระดับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image