ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้า ก.ย. 63 ดีขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 32.5 หลังได้ปัจจัยบวกในประเทศช่วยพยุง

ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้า ก.ย. 63 ดีขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 32.5 หลังได้ปัจจัยบวกในประเทศช่วยพยุง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนกันยายน 2563 ว่า จากผลการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 365 ราย ในช่วงวันที่ 23-30 กันยายน 2563 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ปรับขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 32.5 จากเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 32.3 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต ก็ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.8 จากเดือนสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 39.6 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนเช่นกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ใหม่

คาดว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะติดลบเพียง 7.8% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 8.1% และรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังอยู่ในระดับทรงตัว นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังเห็นว่า ราคาสินค้าเกษตรในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทำให้การขายสินค้าทำได้ดีมากขึ้นด้วย

“ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา แม้จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย และยังเป็นการฟื้นตัวที่ค่อนข้างช้า รวมถึงระดับดัชนียังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำด้วย” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินการในการแก้ไขปัญหา มีข้อเสนอหลักๆ คือ การควบคุมราคาสินค้าให้กับประชาชน เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลงไม่คึกคัก ต้องมีแนวทางการหารือในส่วนของมาตรการที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา และควรทำอย่างรัดกุม เพื่อไม่ปล่อยให้โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดภายในประเทศอีกระลอก รวมถึงดูแลสถานการณ์ทางด้านการเมืองให้มีเสถียรภาพ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน

Advertisement

นอกจากนี้ ภาครัฐควรเร่งใช้งบประมาณ และเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หาแนวทางลดภาระหนี้นอกระบบของครัวเรือน และเร่งกระตุ้นการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ให้อยากเข้ามาติดต่อธุรกิจทำธุรกิจกับประเทศไทยให้มากขึ้นในหลายๆ ส่วนของภาคธุรกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image