หุ้นไทยร่วง ปิดลบ 9.44 จุด เหตุม็อบมีแววรุนแรงขึ้น แถมปัจจัยภายนอกยังกดดันหนัก
วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,273.43 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,263.41 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,263.99 จุด ปรับลดลง 9.44 จุดหรือ 0.77% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,271.10 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,257.84 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่51,802.58 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 936.55 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 168.68 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,665.36 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ3,433.23 ล้านบาท
โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยปรับระดับลึกลงกว่า 15.59 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น แต่พยุงไม่ไหว จึงเห็นการปิดตลาดในแดนลบออกมา ซึ่งถือเป็นภาพการเคลื่อนไหวที่คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยคาดว่ามีสาเหตุมาจากการระงับการทดลองวัคซีนต้าน ไวรัสโควิด-19 ของบริษัท J&J และบริษัทEli Lilly & Co จึงสร้างบรรยากาศเชิงลบให้กับตลาดหุ้นท่ัวโลก รวมถึงประเทศไทยยังมีปัจจัยกดดันเฉพาะตัว ในเรื่องความไม่แน่นอนจากการชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลทำให้ดัชนีปรับลดลงลึกมากกว่าเดิมได้
“ปัจจัยการเมืองเป็นประเด็นที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากหากมีความรุนแรงมากขึ้น จะเป็นผลเชิงลบกับตลาดหุ้นไทยและความเชื่อมั่น รวมถึงยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร(แบงก์) ที่คาดว่าจะทยอยออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าผลประกอบการอาจอ่อนตัวลง เป็นปัจจัยกดดันต่อเนื่อง” นางสาววิลาสินี กล่าว
