หุ้นไทยดิ่งแรง ลบ 21.03 จุด หลังการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น แถมปัจจัยเสี่ยงภายนอกรุมหนัก

{"source_sid":"7CD8856F-73F4-4C98-B2EE-FAFDE0FD26FB_1596709365541","subsource":"done_button","uid":"7CD8856F-73F4-4C98-B2EE-FAFDE0FD26FB_1596709365517","source":"other","origin":"gallery"}

หุ้นไทยดิ่งแรง ลบ 21.03 จุด หลังการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น แถมปัจจัยเสี่ยงภายนอกรุมหนัก

วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,263.99 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,253.61 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,242.96 จุด ปรับลดลง 21.03 จุดหรือ 1.66% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,258.09 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,240.75 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 54,209.15 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 2,114.86 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 66.58 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,739.51 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,787.80 ล้านบาท

โดยนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัดเปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย มีปัจจัยกดดันโดยเฉพาะการเมืองไทย ซึ่งหากยังไม่มีความชัดเจนในการถึงจุดจบของการชุมนุมแสดงออกทางการเมือง ในด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านร้าย ความไม่แน่นอนทางการเมืองก็จะเป็นปัจจัยรบกวนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนได้จากในช่วงการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ที่จะเห็นว่าปริมาณการซื้อขายมีไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากตลาดยังคงรอดูความชัดเจนของทิศทางการชุมนุมว่าจะจบลงอย่างไร โดยประเมินว่า หากดัชนีหุ้นถูกกดดันหนักจนลดระดับแตะ 1,200 จุด หรือหลุด 1,200 จุด ให้ถือเป็นจังหวะในการเข้าซื้อสะสม และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นในพอร์ตต่อไป พร้อมทั้งให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,200-1,300 จุด

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่ปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากมีแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ จะอาจล่าช้าออกไปมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยอมรับว่าการบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นเรื่องยาก และการชะลอการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อ ทำให้ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนให้ดัชนีไปต่อได้ จึงอยู่ในภาวะซึมตัวต่อไป จนกว่าจะเห็นการคลี่คลายลงของปัจจัยแวดล้อมเชิงลบเหล่านี้นายณัฐชาตกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image