‘คลัง’ เผยลงทะเบียนขอสิทธิ ‘คนละครึ่ง’ วันที่ 2 เพิ่มเกือบล้าน ยันป้องกันโกงใช้เงินเต็มที่

‘คลัง’ เผยลงทะเบียนขอสิทธิ ‘คนละครึ่ง’ วันที่ 2 เพิ่มเกือบล้าน ยันป้องกันโกงใช้เงินเต็มที่

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้ามาตรการคนละครึ่ง ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 17 ตุลาคม พบว่ามีผู้ลงทะเบียนสะสม จำนวน 5,380,096 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว จำนวน  5 ล้านคน และมีผู้ลงไม่สำเร็จ จำนวน 3.3 แสนคน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ให้ข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลกรมการปกครอง จำนวน 2.5 แสนคน และ 2.เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 8 หมื่นคน โดยขณะนี้มีบางส่วนอยู่ระหว่างทยอยส่งข้อความ (เอสเอ็มเอส) เพื่อยืนยันการได้รับสิทธิเข้าร่วมมาตรการ

“กระแสตอบรับของโครงการคนละครึ่ง ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก เนื่องจากเปิดให้ลงทะเบียนวันแรก ยอดทะลุ 5 ล้านคนกว่าแล้ว แต่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายที่มองไว้ เพราะเชื่อว่าจะได้รับการสนใจในระดับที่ดีแน่นอน ส่วนจะเห็นยอดลงทะเบียนเต็มครบ 10 ล้านคนภายใน 1-2 วันหรือไม่ คงตอบได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ต้องการเข้าร่วมโครงการมากกว่า ในส่วนของร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ขณะนี้มีจำนวนกว่า 2.6 แสนร้านค้าแล้ว โดยยังเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร้านค้ารายย่อยได้ประโยชน์เชิงบวกมากที่สุด” นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมพร้อมระบบใช้งานระหว่างร้านค้ารายย่อยและผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ ขณะนี้มีความพร้อมใช้งานในระดับสูง โดยหากประเมินจากระบบการลงทะเบียน จะเห็นว่าไม่มีความผิดพลาดในเรื่องระบบล่ม หรือการยืนยันตัวไม่ได้ หากข้อมูลครบถ้วน จึงมองว่าในส่วนของวันเปิดให้ใช้จ่ายแอพพลิเคชันถุงเงิน ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 จะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่ในระยะเริ่มต้นอาจต้องทำความคุ้นชินกับการใช้งานผ่านแอพพิเคชั่นก่อน ทั้งในส่วนของร้านค้าที่ต้องรับเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เพราะอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับร้านค้ารายย่อย และผู้ลงทะเบียนใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน โดยกำหนดให้ผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งรับสิทธิ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก

นายลวรณ กล่าวว่า ในส่วนของความกังวลการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ หรือร่วมกันโกงระหว่างร้านค้ากับผู้ใช้เงิน จากการจัดทำระบบ ผู้ได้สิทธิจะต้องใช้เงินผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตังค์ ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อจ่ายเงินให้ทางร้านค้า ส่วนร้านค้า จะต้องมีแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ในการรับเงิน และกรอกจำนวนเงินที่ต้องการทุกครั้ง เพื่อสร้างคิวอาร์โค้ดใหม่ ในการรับเงินเข้าระบบทุกครั้ง ทำให้โอกาสที่จะเกิดการร่วมกันโกง เพื่อรับเงิน 150 บาทเป็นไปได้ยาก รวมทั้งธนาคารกรุงไทยได้มีการตรวจสอบการดำเนินธุรกรรมของร้านค้าอยู่แล้ว จึงมั่นใจได้ว่า กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ได้รับสิทธิและใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่ง จะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้ จึงขอให้พิจารณาเข้าร่วมโครงการ หรือมาตรการที่เหมาะสมกับการใช้จ่ายของตนเองต่อไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการคนละครึ่ง วันที่อรก (16 ตุลาคม) มีจำนวน 4,500,000 คน ส่วนวันที่ 2 (17 ตุลาคม) มีจำนวน ทะเบียนเพิ่มมาเป็น 5,380,096‬ คน หรือเพิ่มมา ‭880,096‬ คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image