สร.อสมท. แนะผู้บริหารปรับแนวทางลดค่าใช้จ่าย จี้แต่ละสำนักมีแผนหารายได้
จากกรณีที่อสมท.มีประกาศเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรผลจากการประสบปัญหาทางการเงินไปก่อนหน้านี้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมระบุว่าสหภาพแรงงานอสมท.ได้เผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง เสนอแนวทางการปรับปรุงคำสั่ง เรียกร้องให้มีการปรับปรุงคำสั่งทุกไตรมาส ต่อรองเรื่องการเปลี่ยนผลัดการทำงาน ค่าตอบแทนสำหรับพนักงานที่เสียสละและเรียกร้องให้ผู้บริหารมีแผนการหารายได้เพิ่มเติมอย่างเป็นรูปธรรม โดยข้อความระบุว่า
ตามที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ออกคำสั่งที่ 145/2563 เรื่องมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และคำสั่งที่ 148/2563 เรื่องวันทำงาน เวลาทำงาน เวลาพัก และวันหยุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายบุคลากร และการกำหนดผลัดในการทำงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพการจ้างโดยตรง แต่กลับไม่มีการหารือกับสหภาพแรงงาน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งคำสั่งดังกล่าว ก่อให้เกิดการวิจารณ์ในสองมุม คือ พนักงานบางส่วนเห็นว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย และควรฟ้องร้อง ขณะที่พนักงานบางส่วน พร้อมปฏิบัติ
ซึ่งในส่วนของสหภาพแรงงาน ยังคงยืนยันในจุดยืนว่า ภาวะองค์กรในขณะนี้ พนักงานจำเป็นต้องเสียสละ จึงยอมให้มีการเหมาจ่ายเกิดขึ้น มาตั้งแต่ปี 2558 อย่างไรก็ตาม ในคำสั่งล่าสุด กลับไม่มีการหารือกับสหภาพแรงงาน จึงทำให้ยากต่อการทำความเข้าใจกับพนักงาน แต่เพื่อเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย ขอเสนอให้มีการทบทวน ดังต่อไปนี้
1. หากจะมีการออกคำสั่งอื่นๆ เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับสภาพการจ้าง ขอให้มีการหารือ กับสหภาพแรงงานฯ เพื่อทราบข้อมูลและจะได้นำไปชี้แจงกับพนักงาน
2. ให้ปรับปรุงคำสั่งโดยระบุเวลาที่จะขอความร่วมมือพนักงานเป็นรายไตรมาส
3. กรณีการจัดผลัด ให้จัดผลัดได้เฉพาะวันทำการปกติ จันทร์ – ศุกร์ แต่ในวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งมีปริมาณงานที่น้อยกว่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดผลัด ให้จำนวนคนเท่ากับวันทำการปกติ
4. สำหรับพนักงานที่ต้องเสียสละมาทำงานวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ขอให้พิจารณาเหมาจ่ายในอัตราที่เหมาะสม โดยขอให้มีการทบทวนอัตราทุกไตรมาส และปรับเพิ่ม หากสถานการณ์องค์กรดีขึ้น และกลับไปจ่ายเป็นค่าล่วงเวลาตามปกติ เมื่อ บมจ.อสมท มีผลประกอบการพึงจ่ายได้
5. ควบคู่กับการลดค่าใช้จ่าย องค์กรต้องมีการหารายได้ จึงขอให้กำกับนโยบายให้ผู้บริหารแต่ละสำนัก มีแผนหารายได้ให้เพิ่มขึ้น อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมในทุกไตรมาสเช่นกัน
6 แนวทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้กับ อสมท สหภาพแรงงาน ทราบว่า ปัจจุบันกระทรวงท่องเที่ยว กำลังจะมีสถานีโทรทัศน์ และจำเป็นต้องใช้บริการโครงข่าย จึงอยากให้มีการประสานในเชิงนโยบาย เพราะค่าใช้จ่ายจากกระทรวงท่องเที่ยว หากมาใช้บริการที่ อสมท ซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็จะถือว่า ผลประโยชน์ตกอยู่กับรัฐ
7. เพื่อเพิ่มรายได้และเกิดผลในเชิงโฆษณาประชาสัมพันธ์ สหภาพฯ ขอให้เริ่มทำแผนของปี 2564 ว่าจะมีการถ่ายทอดเทศกาลต่างๆ ที่ใดบ้าง เพื่อให้เกิดผลในการเพิ่มรายได้เช่น จากเดิมได้จากระทรวงท่องเที่ยว หรือกระทรวงวัฒนธรรม ก็อาจมีรายได้เพิ่มจาก บริษัทที่อยู่ในจังหวัดนั้น หอการค้าจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นต้น โดย หากกำหนดทิศทางชัดเจน ตั้งแต่ต้นปี ก็จะเกิดผลในการประชาสัมพันธ์และการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการขายและการตลาดด้วย
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุวิทย์ มิ่งมล )
