‘ททท.’ เล็งหารือ ‘สุพัฒนพงษ์’ หารือกระตุ้นท่องเที่ยวโค้งสุดท้าย พร้อมเสนอปรับเงื่อนไข ‘เราเที่ยวด้วยกัน’

‘ททท.’ เล็งหารือ ‘สุพัฒนพงษ์’ หารือกระตุ้นท่องเที่ยวโค้งสุดท้าย พร้อมเสนอปรับเงื่อนไข ‘เราเที่ยวด้วยกัน’

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ (30 ตุลาคม) จะเข้าหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการหาแนวทางการส่งเสริมภาคท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยมี 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.ททท.จะร่วมกับการบินไทย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) จัดทำแพกเกจท่องเที่ยว 3 แพกเกจครอบคลุมแบบเที่ยวระยะสั้นไปเช้าเย็นกลับ 1 ทริป เดินทางผ่านรถยนต์ และเดินทางผ่านเครื่องบิน เพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังครบกำหนดกักตัว 14 วันในไทยให้กระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ในต่างจังหวัด โดยททท.จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย ส่วนจะสนับสนุนในสัดส่วนเท่าไรนั้น ยังต้องหารือกันเพิ่มเติม 2.การปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ 3.ททท.จะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนิทรรศการ (ทีเส็บ) ออกแพกเกจใหม่สนับสนุนการจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ โดยทั้ง 3 เรื่องหลัก ทางศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ได้ขอให้เร่งนำเสนอหลักการในที่ประชุมวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยหากได้รับการเห็นชอบ คาดเริ่มได้เร็วที่สุดภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

“หลังจากมีประเด็นหญิงชาวฝรั่งเศสในสมุยติดโควิด-19 กับกรณีความไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของคนในพื้นที่ภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มวีซ่าประเภทพิเศษ (เอสทีวี) ทุกเที่ยวบินต้องลงสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด และเข้าพักกักตัวในโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือกของรัฐ (เอเอสคิว) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ซึ่งในช่วงนี้เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้ว นักท่องเที่ยวถึงจะสามารถกระจายการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ากักตัวในโรงแรมเอแอลเอสคิวที่ต่างจังหวัด ยังต้องรอความพร้อมในการยอมรับของคนในพื้นที่ก่อน รวมถึงประเมินความต้องการ (ดีมานด์) ของเที่ยวบินตรงสู่เมืองท่องเที่ยวนั้นๆ ในระยะถัดไปด้วย” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับารปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคมนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นกระแสการเดินทางและยอดการใช้สิทธิ์จองห้องพักให้ถึงเป้าหมาย 5 ล้านคืน โดยเงื่อนไขใหม่ที่จะหารือกันเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.ให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรสามารถเข้าร่วมโครงการฯได้ ไม่จำกัดเฉพาะโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการเท่านั้น 2.ผู้ลงทะเบียนสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดที่รัฐช่วยจ่าย 40% ของมูลค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ผู้โดยสารในขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบินได้เลย เหมือนกับขั้นตอนการจองห้องพักที่เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ต้องยื่นเรื่องขอคืนเงินภายหลัง เพื่อเพิ่มความสะดวกและกระแสการเดินทาง ช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินให้อยู่ได้ เพราะปัจจุบันมีจำนวนสิทธิ์ตั๋วเครื่องบินที่ถูกใช้แล้วเพียง 1 แสนกว่าสิทธิ์เท่านั้น คิดเป็นมูลค่าที่รัฐช่วยจ่ายไปแล้ว 203 ล้านบาท จากโควตาตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านสิทธิ์ ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการค้างคืน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ แต่ต้องไม่ใช่การจองเที่ยวบินแบบเดย์ทริปหรือเดินทางไปกลับภายในวันเดียว 3.เพิ่มแพกเกจทัวร์มาเสนอขายผ่านโครงการฯ โดยทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ได้ผลักดันโครงการย่อย “ชวนผู้สูงวัย เที่ยววันธรรมดาผ่านทัวร์” ใช้งบฯของโครงการเราเที่ยวด้วยกันซึ่งปัจจุบันเหลืองบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ด้านสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ซึ่งเป็นสมาคมบริษัททัวร์พาคนไทยเที่ยวต่างประเทศ เสนอต่อ ททท.ว่าจะขอทำแพกเกจทัวร์ขายผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ททท.จึงให้แนวทางว่าต้องทำแพ็คเกจทัวร์ราคาสูง เพื่อขายกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ในช่วงนี้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขรัฐช่วยจ่าย 40% 4.เพิ่มการเสนอขายวอยเชอร์ของโรงแรม ให้แก่ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ภายใต้เงื่อนไขรัฐช่วยจ่าย 40% เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าบริการอื่นๆ ในโรงแรมเพิ่มเติม อาทิ สปา ร้านอาหาร โดยทางนายสุพัฒนพงษ์ รองนายกฯได้สั่งการให้ ททท.ศึกษาความเป็นไปได้ในส่วนนี้ ทั้งนี้ตัววอยเชอร์จะเป็นคนละส่วนกับ “อี-วอยเชอร์” ที่มอบให้ผู้ใช้สิทธิ์ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตังซึ่งรัฐจะช่วยจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยวสูงสุดมูลค่า 900 บาทต่อวัน และ 5.ปรับวิธีการและลดขั้นตอนการใช้สิทธิ์โครงการให้ง่ายขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image