“ไกรฤทธิ์-ผยง” ไขปมกรุงไทย พ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ ชี้สถานะไหนก็ยังเป็นเครื่องมือของรัฐเหมือนเดิม

 

“ไกรฤทธิ์-ผยง” ไขปมกรุงไทย พ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ ชี้สถานะไหนก็ยังเป็นเครื่องมือของรัฐเหมือนเดิม

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารกรุงไทยจะพ้นสถานะความเป็นรัฐวิสาหกิจ ว่า หากจะตีความตามกฏหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รัฐวิสาหกิจกรุงไทย ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ แต่เชื่อบทบาท การดำเนินธุรกิจ จะไม่เปลี่ยนเแปลง โดยจะยังเป็นเครื่องมือของรัฐเหมือนเดิม และขณะเดียวกันจะยังมีบุคลากรจากกระทรวงการคลังเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการ และบริหารธนาคารผ่าน พ.ร.บ.มหาชน

“เพิ่งเห็นหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ที่ได้ตีความเพื่อดูคำจำกัดความรัฐวิสาหกิจว่าตรงหรือไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริงของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) และธนาคารกรุงไทยได้มอบหมายให้ทีมงานกฎหมายได้เข้าไปศึกษาในรายละเอียด ซึ่งที่ผ่านมากองทุนFIDF ได้ถือหุ้นมานานนับสิบปี ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ประเทศพัฒนาย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎหมาย แต่การถือหุ้นยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง และการดำเนินงานระยะต่อไปของกรุงไทยไม่ได้ผิดปกติไป เพียงแต่ว่าการตีความว่าไม่ใช่รัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ.งบประมาณในปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปี 2561 กฎหมายพัฒนาและกำกับรัฐวิสาหกิจก็มีการเปลี่ยนไปเมื่อปี 2562 นำมาซึ่งกองทุนฟื้นฟูเลยถามให้ชัดเจนว่าเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่”นายไกรฤทธิ์กล่าว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างทำความเข้าใจกับตัวกฎหมายและได้มอบหมายให้ทีมงานทางด้านกฎหมายประสานงานเกี่ยวกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยสิ่งที่อยากให้พิจารณาเพื่อให้เห็นภาพ คือ กิจกรรมต่างๆ ของธนาคารกรุงไทยไม่ได้พึ่งงบประมาณแผ่นดิน แต่มีผู้ถือหุ้นเป็นหน่วยงานของรัฐ โดยการทำกิจกรรมต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย คือ กิจกรรมของธนาคารพาณิชย์ ทั้งในส่วนของกิจกรรมและสวัสดิการ ซึ่งเงินที่ออกมาเป็นเงินของธนาคารกรุงไทย ไม่ได้พึ่งพาเงินงบประมาณของแผ่นดิน

Advertisement

“การเป็นหรือไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นแค่เพียงโมเมนต์ใดโมเมนต์หนึ่งของเรื่องของบูรณาการทางกฎหมาย แต่เรื่องการทำกิจกรรมของธนาคารกรุงไทยมีใบอนุญาตชัดเจนจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพียงแต่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแตกต่างกัน และการกำหนดนโยบายจะเป็นไปตามบริบทของผู้ถือหุ้นเท่านั้น และผมไม่อยากให้ยึดโยงอะไรจนเลยเถิด เพราะตอนนี้มีข่าวมากมายและผมพยายามระมัดระวังในการให้ข้อมูล ซึ่งจินตนาการต้องมีคำอธิบาย เมื่อมีความชัดเจนในจุดไหนผมจะออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแน่นอน”นายผยงกล่าว

ข้อมูลจากประชาชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image