ตลท.แจ้งยังขึ้นเครื่องหมายSPหุ้นเนชั่นต่อเหตุยังไม่ได้รับงบการเงิน Q2 ส่วนQ1 ขาดทุนกว่า80ล.

 

ตลท.แจ้งยังขึ้นเครื่องหมายSPหุ้นเนชั่นต่อเหตุยังไม่ได้รับงบการเงิน Q2 ส่วนQ1 ขาดทุนกว่า80ล.

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 63 รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.63  บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มาให้ ตลท.แล้ว อย่างไรก็ตามทาง ตลท.ก็ยังคง คงขึ้้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ NMG ต่อไป เนื่องจาก NMG  ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563

 

ทั้งนี้สำหรับงบการเงิน ณ ไตรมาสแรกปี 2563 ที่ทางเนชั่นกรุ๊ป นำเสนอต่อ ตลท.พบว่า บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 แสดงผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 81.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 108.49 ล้านบาท คิขาดทุนลดลงร้อยละ 25 โดยมีสาระสำคัญคือ
1.รายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ค่าโฆษณาลดลงร้อยละ 23 สาเหตุหลักเนื่องจากบริษัทย่อยได้คืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ช่อง 26 แก่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)และมีมติให้ยุติการออกอากาศใน วันที่ 16 สิงหาคม 2562 ส่งผลกระทบทำให้รายได้ลดลงจากปีก่อน
รายได้จากการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ลดลงร้อยละ 34 สาเหตุหลักเนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคส่งผลให้กลุ่มบริษัทได้ยุติประกอบธุรกิจหนังสือพิมพ์ “The Nation” เมื่อวันที่29 มิถุนายน 2562 ทำให้รายได้ลดลงจากปีก่อน
รายได้จากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และรายได้จากให้บริการนำเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 เนื่องจากธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางสื่อโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลและสื่อออนไลน์ และธุรกิจให้บริการนำเที่ยวของบริษัทย่อยทางอ้อมที่เพิ่มขึ้น
2.ต้นทุนและค่าใช้จ่ายสำหรับไตรมาสที่ 1 ของ ปี2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนขายและบริการของบริษัทย่อยทางอ้อม ที่เพิ่มขึ้นซึ่งสอดคล้องกับรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นกล่าว
โดยสรุปผลการดำเนินงานรวมสำหรับไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม2563 กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 81.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 108.49ล้านบาท
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image