‘ไบเดน’ เข้าวิน สัญญาณน้ำมันขาขึ้น ดัชนีหุ้นเด้งรับทุนไหลเข้า
การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐยังไม่ประกาศผลเป็นทางการ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะตกเป็นของนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ย่อมมีส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทย
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกมีโอกาสฟื้นตัวหลังนายไบเดนชนะการเลือกตั้ง ควบคู่กับทั่วโลกมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้ จะทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง จากราคาน้ำมันดิบน่าจะสูงขึ้น การที่นายไบเดนมีท่าทีประนีประนอมน่าจะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนผ่อนคลายลง อีกทั้งนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนมากกว่าพลังงานจากฟอสซิลน่าจะทำให้การผลิตน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐออกมาน้อยลง และกดดันให้มีราคาสูงขึ้นปรับตัวเข้าสู่สมดุล
ด้านบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มขยับขึ้น หลังความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ในสหรัฐ จากประธานาธิบดีคนใหม่ ประกอบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นทั้งในสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 8 พฤศจิกายน มีทิศทางเป็นบวกตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด และปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 25.80 จุด หรือ 2.05% มูลค่าการซื้อขายที่ 77,886.02 ล้านบาท
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ดัชนีปรับขึ้นร้อนแรงมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าปรับขึ้นมากกว่า 30 จุด สาเหตุมาจากการขานรับนายไบเดน เนื่องจากคาดว่านโยบายการปรับเพิ่มภาษีสหรัฐของนายไบเดน อาจช่วยหนุนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติให้ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่มากขึ้น และการที่นายไบเดนมีท่าทีประนีประนอมในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ น่าจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนให้ผ่อนคลายลง
