กขค.เสียงข้างน้อย ชี้การควบรวมธุรกิจ กระทบการแข่งขัน-ศก.ไทยร้ายแรง

กขค.เสียงข้างน้อย ชี้การควบรวมธุรกิจ ซีพี-เทสโก้ สโตร์ส กระทบการแข่งขัน-ศก.ไทยร้ายแรง

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.)​ ในฐานะกรรมการเสียงข้างน้อย เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการกขค.เสียงข้างมาก อนุญาตให้มีการรวมธุรกิจระหว่าง กลุ่ม ซี.พี. และ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลจากการควบรวมดังกล่าวส่งผลให้ ดัชนีวัดความรุนแรงการแข่งขันในธุรกิจ (เอชเอชไอ) เกินมาตรฐานสากล ซึ่งค่าสูงสุดอยู่ที่ 2,500 แต่เมื่อมีการควบรวมดัชนีเอชเอชไอพุ่งไปถึง 7,000 แสดงให้เห็นถึงการกระจุกตัวของตลาด และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายสันติชัย กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ กขค. เสียงข้างน้อยไม่เห็นชอบการอนุญาติควบรวมกิจการในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.การรวมธุรกิจในครั้งนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากผู้ขอขออนุญาต เป็นทั้งผู้ผลิตสินค้า หลายประเภท อาทิ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป และสินค้าทั่วไป และเป็นผู้ผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกครั้งเมื่อผนวกรวมกับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ในระดับสูงทุกรูปแบบการค้า จากปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ผู้ขออนุญาต มีอำนาจหน้าตลาดสูงมากจนสามารถครอบงำเศรษฐกิจการค้าของประเทศได้โดยง่าย และจะมีส่วนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมมากยิ่งขึ้น

2. ผลกระทบต่อคู่แข่ง เนื่องจากผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดและมีส่วนแบ่งตลาดในระดับสูงทุกรูปแบบของการค้าส่งและค้าปลีก ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ ที่มีอยู่หรือผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดยิ่งเข้าสู่ตลาดยากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก อีกทั้งจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้จ่ายน้อยลงอีกด้วย

3. ผลกระทบต่อผู้ผลิตสินค้าหรือวัตถุดิบ การรวมธุรกิจในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบเนื่องจากเป็นการรวมธุรกิจระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่รายใหญ่ซึ่ง เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ดูภายหลังการรวมธุรกิจส่งผลให้ผู้ขออนุญาตและบริษัทในเครือเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครบทุกรูปแบบทั้งราคาส่งร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกขนาดเล็ก เป็นผลให้ผู้ขออนุญาตมีอำนาจตลาดและมีอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตสินค้าหรือวัตถุดิบมากยิ่งขึ้น

Advertisement

4.ผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยรวม แม้ในระยะสั้นอาจไม่มีผลต่อผู้บริโภคทั้งในด้านราคาหรือประเภทสินค้าที่มีให้เลือก แต่ในระยะยาว อาจมีผลต่อทางเลือกของผู้บริโภคทั้งประเภทชนิดสินค้าและระดับราคา อาจมีการกำหนดตามความต้องการหรือนโยบายของกลุ่มบริษัทที่เป็นของผู้ขออนุญาต นอกจากนี้หากมีการลงทุนเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆในตลาดค้าปลีกซึ่งจะมีต้นทุนค่อนข้างสูงผู้บริโภคอาจเป็นผู้ต้องรับภาระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“หากยอมให้มีการ รวมธุรกิจดังกล่าวเกิดขึ้นจะส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจการค้าของประเทศและมีผลทำให้โครงสร้างของตลาดค้าส่งค้าปลีกมีการกระจุกตัวในระดับสูงมาก และนำไปสู่การครอบงำตลาดหรือการผูกขาดทางการค้าในที่สุด กขค.เสียงข้างน้อย ถึงไม่เห็นชอบต่อการอนุญาตให้รวมธุรกิจทางนี้ในต่างประเทศเมื่อมีการรวมธุรกิจ ที่มีการกระจุกตัวมากขนาดนี้จะมีการกำหนดมาตรการจากหนักไปเบาได้แก่ไม่อนุญาต ให้เกิดการควบรวม อนุญาตแต่มีเงื่อนไขหน้าโครงสร้างประกอบกับด้านพฤติกรรม และเบาสดุเฉพาะมาตรการด้านพฤติกรรม ซึ่งมติกขค.เสียงส่วนใหญ่ใช้มาตรการ​นี้” นายสันติชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image