นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เปิดเผยว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2558 ฟื้นตัวดีขึ้น สำหรับปี 2559 นี้ประเมินว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังเป็นการฟื้นตัวไม่ทั่วถึง โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี) จะยังใกล้เคียง 3.5% ที่ประเมินไว้เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยแรงขับเคลื่อนมาจากอุปสงค์ในประเทศ คือ การใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นต้น
นายจาตุรงค์กล่าวว่า ส่วนปัจจัยเสี่ยที่จะมีผลต่อเศรษฐกิมากที่สุด คือ เศรษฐกิจต่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำลง โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทั้งจีนและอาเซียน เพราะจะส่งผลต่อภาคการส่งออก และเศรษฐกิจสหรัฐที่จะโตได้ต่ำกว่าคาด รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำจากราคาน้ำมัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ กนง. มองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดต่ำลงกว่าการประมาณการณ์ครั้งก่อนที่อยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะยิ่งมีผลต่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม ประมาณการครั้งที่ผ่านมาอยู่ กนง.คาดการณ์จีดีพีจีน 6.5% และเอเชีย 3.9% และจีดีพีสหรัฐ 2.6%
“ขณะนี้ควรรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย (policy space) รวมทั้งยังคงต้องระมัดระวังความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ หากการขยายตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามคาด เพราะมีความเสี่ยงที่การขยายตัวจะเบ้ไปด้านต่ำมากขึ้น กนง.ก็ยังมีรูมที่จะใช้นโยบายการเงินในการดูแลเศรษฐกิจได้อีก ซึ่งนโยบายการเงินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ผ่อนปรน โดยกนง.จะติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม” นายจาตุรงค์กล่าว
