รถบรรทุกแสนคันขู่หยุดวิ่ง ประชดกทม.ออกมาตรการลดฝุ่น ร้อง”บิ๊กตู่”ช่วยด่วน

โวยกทม.ออกมาตรการลดฝุ่น ห้ามรถบรรทุกวิ่งทุบ3หมื่นล. กระทบรถบรรทุกกว่า1แสนคัน กดคุณภาพชีวิต-จราจรป่วนแน่ ยื่น5ผู้บริหารรัฐสั่งเลิกด่วน เล็งฟ้องศาลปกครองฐานเลือกปฏิบัติ

โวยกทม.ห้ามรถบรรทุกวิ่งทุบ3หมื่นล.

นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และกรรมการและประธานที่ปรึกษาสมาคมขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก เปิดเผยถึงนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ออกคำสั่งห้ามรถบรรทุก 6 – 10 ล้อ วิ่งเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 06.00 – 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อลดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สหพันธ์ฯคัดค้านคำสั่งห้ามดังกล่าว เพราะการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เกาไม่ถูกที่คัน ผลการวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศพบว่าสาเหตุหลักมาจากการเผา ทั้งการเผาซังข้าว อ้อย ขยะ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างเขม่าควัน ส่วนควันจากรถยนต์ยอมรับว่ามีเช่นกัน แต่มีส่วนน้อย จะเห็นว่าปัญหาใหญ่ไม่แก้แต่รัฐบาลมาแก้ปัญหาน้อย ปลายเหตุ

นายทองอยู่ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญต่อมาคือ ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะกระบวนการผลิต การขนส่ง การกระจายสินค้า การนำเข้า การส่งออก การก่อสร้างต่างๆ เป็นซัพพลายเชนในระบบการขนส่งที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจจะกระทบในวงกว้างมาก เพราะการสั่งไม่ให้รถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯจำนวน 15 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีเวลาทำงานจริงอยู่ประมาณ 8-9 ชั่วโมง ตรงนี้ทำได้ยาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นคาดว่าจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจ เพราะการขนส่งเป็นการเชื่อมของทุกห่วงโซ่ ทุกซัพพลายเชน

Advertisement

กระทบรถบรรทุกกว่า1แสนคัน

นายทองอยู่ กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯเป็นศูนย์ของทุกอย่าง มีอุตสาหกรรม การเงิน การศึกษา ศูนย์รวมอำนาจของภาครัฐ ประชากรก็มากประมาณ 10 ล้านคน และตามผังเมืองปัจจุบันของกรุงเทพฯก็มีเมืองบริวาร จังหวัดปริมณฑลรอบล้อม ดังนั้นเวลาเกิดปัญหากับกรุงเทพฯจะกระทบทั้งหมด เป็นวงแหวนเชื่อมหมด จะเห็นว่าเมืองบริวารก็สร้างปัญหาให้กรุงเทพฯเช่นกัน สังเกตจากช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ค่าพีเอ็ม2.5 ปริมาณสูงสุดอยู่ที่ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

“จะเห็นผลว่าผลกระทบค่อนข้างรุนแรง สุดท้ายผู้บริโภคจะเดือดร้อน สินค้าจะขาดแคลน จะหยุดชะงักชั่วขณะหนึ่ง ปัจจุบันปริมาณรถบรรทุกในระบบ ถ้าเข้ากรุงเทพฯโดยตรงจะสูงสุดประมาณ 7-8 หมื่นคันต่อวัน และรถบรรทุกที่วิ่งเชื่อมกรุงเทพฯและปริมณฑลตามเส้นทางหลักต่างๆ ทางด่วน อีกประมาณ 5-6 หมื่นคันต่อวัน รวมรถบรรทุกที่ได้รับผลกระทบกว่า 1 แสนคันต่อวัน”

กดคุณภาพชีวิต-จราจรป่วนแน่

นายทองอยู่ กล่าวว่า ต่อมาคือภาคสังคม ภาคแรงงาน พฤติกรรมการทำงาน กรรมกรต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์จะได้รับผลกระทบ เพราะทำงานช่วงกลางวันไม่ได้ เพราะรถบรรทุกเข้าไม่ได้ แรงงานในระบบต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการหลับนอน การกินอยู่ อย่างเวลากลางคืนกรุงเทพฯจะนอน แต่มาตรการให้วิ่งกลางคืนจะเกิดเสียงดัง มีการลงของ กระทบกับเวลานอนของประชาชนแน่นอน

นายทองอยู่ กล่าวว่า อีกส่วนสำคัญคือการจราจร เพราะรถบรรทุกเข้าเมืองไม่ได้ต้องจอดรอบนถนน อาทิ ถนนเพชรเกษม บางนาตราด สุขุมวิท เมื่อถึงเวลา 21.00 น.ก็แห่กันเข้ามาในเมือง ถึงเวลาเช้า 06.00 น.ต้องออกนอกเมือง ทำให้การจราจรเข้าออกลำบาก จะให้รถไปจอดรอตรงไหน ไม่มีพื้นที่ให้ ต้องจอดข้างถนนทำให้ตอนเช้ารถติด กังวลอุบัติเหตุ อันตราย

ยื่น5ผู้บริหารรัฐสั่งเลิกด่วน

นายทองอยู่ กล่าวว่า สหพันธ์ฯมองว่าปัญหาฝุ่นพิษเป็นปัญหาระดับชาติ ต้องแก้แบบบูรณาการ แก้เฉพาะในประเทศอาจไม่ได้ เพราะมีการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ อินโดนีเซีย จนฝุ่นควันเข้ามาในประเทศไทย เป็นปัญหาระดับชาติ ต้องมีแผนมียุทธศาสตร์ชัดเจน ต้องกำหนดว่าระบบการเผาพืชต่างๆ ทั้งอ้อย ซังข้าว ขยะ จะแก้ยังไง อย่างอ้อยปัจจุบันเผา 50% ใน11ล้านไร่ ต่อไปปี 2564 ให้เผาแค่20% ปีต่อไปเหลือ10% จนเหลือศูนย์ ถ้าเผาอ้อยจะไม่รับซื้อ หรือจะใช้วิธีตัดอ้อยแบบไม่ใช้แรงงาน ตัดแปลงใหญ่ หรือกรณีเผาขยะควรมีโรงงานกำจัดชัดเจน ไม่ให้เผาทั่วไป เหล่านี้ต้องทำเชิงบูรณาการ เป็นแผนยุทธศาสตร์ของชาติ กทม.แก้ไม่ได้ แก้แค่กระพี้ ปลายเหตุ

“สหพันธ์ฯอยากให้ยกเลิกประกาศดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันแนวร่วมของสหพันธ์ฯ ทั้งสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศ ต่างเห็นชอบคัดค้านประกาศของกทม.เช่นกัน เพราะมองว่ากระทบกับภาคเศรษฐกิจ การส่งออก ซ้ำเติมเศรษฐกิจ ปัจจุบันสหพันธ์ฯยื่นหนังสือคัดค้านไปยัง 5 หน่วยงานแล้ว คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”นายทองอยู่กล่าว

เล็งฟ้องศาลปกครองฐานเลือกปฏิบัติ
นายทองอยู่ กล่าวว่า สหพันธ์ฯมองว่าการกำหนดห้ามรถยนต์ หากต้องดำเนินการจริง ต้องห้ามทุกชนิด ไม่ใช่เลือกปฏิบัติห้ามเฉพาะรถบรรทุกแบบนี้ ถ้าวันที่ 1 ธันวาคม ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯยังไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่ง สหพันธ์ฯจะยื่นฟ้องไปทางศาลปกครองว่าเลือกปฏิบัติเฉพาะรถบรรทุก โดยจะขอคุ้มครองชั่วคราว เพราะการปล่อยควันพิษเกิดจากรถยนต์ทุกชนิด ทั้งขสมก. ขบส. รถตู้โดยสารฯลฯ ต่างปล่อยมลพิษ และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯตลอดเวลา อย่างไรก็ตามระหว่างที่ร้องศาลฯ สหพันธ์ฯจะขอความร่วมมือสมาชิกให้นำรถบรรทุกเครื่องยนต์เอ็นจีวี ออกมาวิ่งให้มากขึ้น เพื่อลดมลภาวะ รวมทั้งจะขอให้รถบรรทุกเก่าอายุมากกว่า 30 ปี ห้ามวิ่งเข้ากรุงเทพฯ และให้สมาชิกดูแลซ่อมบำรุงรถไม่ให้มีควันดำ ใช้พลังงานที่ดีขึ้น ซึ่งสหพันธ์ฯพยายามปรับตัวเช่นกัน

“ผลกระทบด้านโลจิสติกส์ครั้งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา คือ ปัญหาตกงาน จากปัจจุบันมีคนตกงานในระบบแล้ว 3-4 ล้านคนจากปัญหาเศรษฐกิจ โควิด-19 คาดว่าหากรถบรรทุกมีปัญหาในการวิ่งจะทำให้พนักงานหลักล้านคนอาจตกงานเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์หลังจากนี้หากภาครัฐไม่รับฟัง อาจตัดสินใจหยุดวิ่งทั้งหมดก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นผลกระทบจะเกิดกับประชาชนมากที่สุด”นายทองอยู่กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image