ลุ้นสศช.ถก ‘รถเก่าแลกใหม่’ วันนี้ แนะ ‘ค่ายรถ’ อัดแคมเปญตามแผน

ลุ้นสศช.ถก ‘รถเก่าแลกใหม่’ วันนี้ แนะ ‘ค่ายรถ’ อัดแคมเปญตามแผน

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ หรือร่วมกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการส่งเสริมโครงการโครงการรถเก่าแลกใหม่ ภายใต้นโยบายลดแลกแจกแถมของรัฐบาล หลังจากมีการพิจารณาเบื้องต้นในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่ผ่านมา โดยการหารือครั้งนี้จะพยายามหาข้อสรุปให้ชัดเจน ถึงรายละเอียดโครงการว่าจะพิจารณามาตรการทางภาษีในรูปแบบใด สัดส่วนเท่าใด เนื่องจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กำชับให้รายละเอียดของนโยบายนี้ มีรายละเอียดที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและมีความสนใจที่จะเข้าร่วมนโยบาย

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า สำหรับประเด็นที่หลายคน คาดว่าโครงการนี้จะออกมาเป็นของขวัญปีใหม่นั้น ในเบื้องต้นคงยังไม่สามารถเริ่มโครงการได้ภายในวันที่ 1 มกราคม 2564 แต่จะเป็นของขวัญหลังปีใหม่แน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนได้ เพราะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีรถยนต์ และภาษีที่ประชาชนต้องจ่าย อย่างไรก็ตาม อยากขอให้ค่ายรถยนต์เดินหน้าจัดแคมเปญขายรถยนต์ตามที่ได้วางแผนไว้ได้เลย ไม่ต้องกังวล เพราะนโยบายนี้ยังไม่ออกมาในช่วงนี้แน่นอน จะเกิดขึ้นหลังปีใหม่ไปแล้ว

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลต้องการออกมากระตุ้นให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดมลพิษจากควันรถ อีกทั้งโครงการนี้จะเป็นหนึ่งในโครงการที่รองรับ ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ของอาเซียนในอนาคต ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้อีกด้วย

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ภาครัฐอยู่ระหว่างเดินหน้าผลักดันศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ตามมาตรฐาน UN R117 เพื่อให้บริการทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อตามมาตรฐานสากล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในปี 2563 และสถาบันยานยนต์ยังได้มีการลงทุนสร้างอาคารทดสอบแบตเตอรี่ไฟฟ้า ภายในบริเวณสนามทดสอบยางล้อ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดซื้อเครื่องทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 5 เครื่อง และคาดว่าจะได้รับเครื่องมือทดสอบประมาณกลางปี 2564 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความพร้อมของภาครัฐและภาคเอกชนในการรองรับการเติบโตของตลาดรถอีวีในอนาตค

Advertisement

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนภาพรวมการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ แนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์หลังจากต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19 แม้จะยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบันมีการผลิตอยู่ประมาณ 1.4 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 700,000 คันและผลิตเพื่อส่งออก 700,000 คัน ยอดลดลงไปกว่า 35% จากช่วงปกติ อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายตลาดรถยนต์ก็ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ส่งผลให้เริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ และคาดว่าทั้งปี 2563 ยอดขายรวมจะติดลบลดลง อยู่ที่ ลบ27%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image