เกษตรกรไทย โชว์ผลผลิตข้าวไทย ความภูมิใจแห่งท้องทุ่ง

เกษตรกรไทย โชว์ผลผลิตข้าวไทย ความภูมิใจแห่งท้องทุ่ง

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน “มหัศจรรย์ข้าวไทย ความภูมิใจแห่งท้องทุ่ง” ณ ลานเมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ เพื่อกระตุ้นการบริโภคข้าวไทยในช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่กำลังออกสู่ตลาด และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563–2567

นางสาวพัชรี พยัควงษ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การจัดงานรณรงค์บริโภคข้าวไทยดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563–2567 ภายใต้วิสัยทัศน์ ไทยเป็นผู้นำการผลิต การตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก” โดยแบ่งกลุ่มข้าวตามความต้องการของตลาด จำนวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ตลาดพรีเมี่ยม ได้แก่ ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมไทย ตลาดทั่วไป ได้แก่ ข้าวพื้นนุ่ม ข้าวพื้นแข็งและข้าวนึ่ง และตลาดเฉพาะ ได้แก่ ข้าวเหนียวและข้าวสีหรือข้าวคุณลักษณะพิเศษ โดยมีพันธกิจด้านการตลาดภายในประเทศจะดำเนินการในการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของการบริโภคในประเทศและการผลิตในประเทศ เพื่อดูแลเกษตรกรชาวนาไทยให้ได้รับราคาผลผลิตที่เหมาะสมเกิดเสถียรภาพด้านราคา และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาไทย

นายเจริญศักดิ์ พรายแก้ว เกษตรกรจากวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง (GI Organic) จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ตั้งอยู่ที่ตำบลดู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ซึ่งแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมพันธุ์ดีและมีรสชาติอร่อยที่สุดในโลก เป็นข้าวที่ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) ความโดดเด่นคือ เมล็ดข้าวสารเรียวยาว ขาวใส เมื่อหุงเป็นข้าวสุกจะมีความอ่อนนุ่ม รสชาติดี ไม่บูดเสียง่าย และมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ก็มีการปลูกข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวอื่นๆ อีกหลายสายพันธุ์ ซึ่งข้าวแต่ชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกัน ต้องรู้จักเลือกกิน อย่างเช่น ข้าวขัดขาวซึ่งมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้พลังงาน เช่น คนที่ออกกำลังกาย แต่ถ้าเป็นคนทำงานออฟฟิศควรกินข้าวกล้องซึ่งมีไฟเบอร์หรือใยอาหาร ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ส่วนข้าวสีแดงพวกข้าวกล้องต่างๆ ช่วยบำรุงเลือดเพราะมีธาตุเหล็กสูง ข้าวสีม่วงและสีดำจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งพวกเรารู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นเกษตรกรชาวนา ได้ปลูกข้าวอินทรีย์ที่มีคุณภาพเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน

Advertisement

นางยุพร สุขนึก ตัวแทนเกษตรกรจากวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ตำบลบุฤาษี จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ตำบลบุฤาษี จังหวัดสุรินทร์ มีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 300 ครัวเรือน มีการเพาะปลูกข้าว 5 สายพันธุ์ คือ ข้าวหอมมะลิ 105 ข้าว กข15 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวหอมมะลิแดง โดยเอกลักษณ์โดดเด่นคือ ข้าวหอมมะลิ 105 ที่เราทำเป็นข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาวจากจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งข้าวแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณหรือประโยชน์แตกต่างกัน โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการปลูกข้าวคุณภาพดีให้คนไทย เพราะเราทำนาปลูกข้าวเอง ทำปุ๋ยเองโดยเป็นปุ๋ยชีวภาพ แปรรูปเอง และขายเองทั้งผ่านระบบออนไลน์และศูนย์กระจายสินค้า อยากให้คนไทยหันมากินข้าวไทยกันเยอะๆ โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ เพราะเป็นข้าวที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

นายกฤษฎา รุ่งเรืองด้วยบุญ ตัวแทนจากโรงสี ป.รุ่งเรืองธัญญา จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ข้าวไทยมีความได้เปรียบประเทศอื่นๆ เพราะข้าวไทยมีพันธุ์ที่หลากหลายให้เลือกกิน ทั้งข้าวขาว ข้าวเหนียว รวมถึงข้าวกล้องซึ่งมีทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสินเหล็ก และข้าวหอมมะลิแดง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออกเป็นอย่างมาก แต่เราหาไปซัพพอร์ตไม่ได้ เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นรอบๆ เท่านั้น และที่สำคัญคือ ข้าวแต่ละสายพันธุ์มีประโยชน์มากมาย มีวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกบริโภคหรือกินข้าวประเภทใดให้เหมาะสมกับตัวเรา ซึ่งการจัดงานมหัศจรรย์ข้าวไทย ความภูมิใจแห่งท้องทุ่ง เพื่อส่งเสริมการบริโภคข้าวไทย จะทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะคนไทยได้รับรู้ข้อมูลด้านคุณประโยชน์ของข้าวไทยสายพันธุ์ต่างๆ ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าข้าวยังคงเป็นอาหารหลักของคนไทย และช่วงนี้ข้าวฤดูกาลใหม่ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีกำลังทยอยออกสู่ตลาด จึงอยากเชิญชวนบริโภคข้าวไทยเพื่ออุดหนุนและเป็นกำลังใจให้เกษตรกรไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image