จุรินทร์ ชงประกันรายได้ข้าวเข้า ครม. เคาะจ่ายเงินส่วนต่างงวด 5 เริ่ม 7 ธ.ค.นี้

“จุรินทร์”ชงประกันรายได้ข้าวเข้า ครม. เคาะจ่ายเงินส่วนต่างงวด 5 วันที่ 7 ธ.ค.พร้อมประกาศดีเดย์โอนเงินมันสำปะหลังงวดแรก 1 ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้โดยขอเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 โดยกระทรวงพาณิชย์จะขอวงเงินเพิ่มเติมอีก จำนวน 28,711 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้จ่ายให้กับชาวนาไปแล้วจำนวน 18,096 ล้านบาท เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2563 เป็นต้นมาแล้วสำหรับงวดแรกและงวดต่อไปก็จะจ่ายทุกสัปดาห์ดังนั้นรอบต่อไปจะเป็นวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยเกษตรกรจะได้ส่วนต่างสูงสุดคือ 40,000 บาท จากการปลูกข้าวหอมมะลิ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ส่วนเงินช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาทสูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งเกษตรกรจะได้สูงสุดรายละ 20,000 บาทนั้น จะจ่ายให้ครึ่งหนึ่งก่อนซึ่งเป็นเงินไร่ละ 500 บาทโดยจะเริ่มจ่ายวันที่ 1-5 ธ.ค. นี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวที่รออยู่ได้รับทราบ สำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 63 วงเงิน 28,046 ล้านบาท โดยจะจ่ายผ่านบัญชีชาวนาโดยตรงตั้งแต่วันที่ 1-5 ธ.ค. 2563 จำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ประมาณ 4.35 ล้านครัวเรือน

” โครงการนี้เป็นมาตรการเสริมและคู่ขนานกับโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งนอกเหนือจากโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพข้าวนี้แล้ว รัฐบาลยังมีมาตรการคู่ขนานอย่างอื่น เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก เป็นต้น ” นายจุรินทร์ กล่าว

Advertisement

ส่วนเรื่องมันสำปะหลัง นายจุรินทร์ ระบุว่า จะจ่ายเงินส่วนต่างวันแรกคือวันนี้(วันนี้ 1 ธ.ค. 2563 ) เป็นวันจ่ายเงินโอนเข้าบัญชีให้เกษตรกรมันสำปะหลังโดยตรง ซึ่งเงินส่วนต่างงวดนี้จะได้ 26 สตางค์ต่อกิโลกรัม และเกษตรกรที่ได้สูงสุดคือประมาณ 26,000 บาท เนื่องจากประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาทไม่เกิน 100 ตัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image