สุริยะ เผย กสอ.ปั้นสตาร์ตอัพ ดึงเอกชนให้ทุน 350ล.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสําคัญกับผู้ประกอบการในทุกระดับผ่านการสร้างระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดศักยภาพและสร้างขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจ จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดําเนินการ ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจเบื้องต้น หรือ สตาร์ตอัพ ซึ่งถือเป็นน้องใหม่ในภาคอุตสาหกรรม และส่วนใหญ่เกิดจากศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ยังขาดแรงสนับสนุนจากภาครัฐ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงจําเป็นต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นสตาร์ตอัพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมีโอกาสทางธุรกิจขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง
“พบว่าปัจจุบันมีบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพจํานวนมากให้ความสนใจร่วมลงทุนในธุรกิจของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ ดีพ เทคโนโลยี ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและการตลาดสําหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ โครงการสตาร์ตอัพคอนเน็ค โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษ หรือ ทีมกูรูดีพร้อม ให้คําปรึกษาตลอดการวางแผนธุรกิจอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะเข้าสู่เชิงพาณิชย์”นายสุริยะกล่าว
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกสอ. กล่าวว่า กสอ. มีโครงการส่งเสริมสตาร์ตอัพมาอย่างต่อเนื่อง สําหรับโครงการในปีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการส่งเสริมสตาร์ตอัพไทยผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชนที่ให้ความสนใจร่วมลงทุนสตาร์ตอัพในกลุ่มดีพ เทคโนโลยี ซึ่งถือได้ว่ามีโอกาสต่อยอดธุรกิจได้ในปัจจุบัน จึงได้จัดตั้ง ทีมกูรูดีพร้อม เข้าไปบ่มเพาะและดําเนินการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในระยะเริ่มต้น เพื่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่และต้นแบบเชิงนวัตกรรมในการนำไปทดสอบเชิงพาณิชย์ จากนั้นจึงจะดําเนินการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงธุรกิจร่วมลงทุนภาคเอกชน(วีซี) เพื่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจที่มีประสิทธิภาพส่งผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการและภาคเอกชนผู้ร่วมลงทุน ซึ่งโครงการนี้มีสตาร์ตอัพ 35 กิจการ ที่ผ่านการบ่มเพาะจาก กสอ. ให้ความสนใจและได้นำเสนอรายละเอียดทางธุรกิจให้กับวีซี ในเครือข่าย กสอ. ซึ่งรวมถึง บริษัท อีซีจี-รีเซียร์ช จำกัด โดยมีสตาร์ตอัพได้รับคัดเลือกให้นำเสนอไอเดียหรือธุรกิจในรอบสุดท้าย จำนวน 6 กิจการ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่า 350 ล้านบาท
นายณัฐพล กล่าวว่า กสอ. ยังได้ส่งเสริมผู้ประกอบสตาร์ตอัพมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สตาร์ตอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทําให้ดําเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังมีเครือข่ายภาคเอกชนที่พร้อมสนับสนุนเงินทุนสําหรับผู้ประกอบการในการต่อยอดสู่เป้าหมายในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ดําเนินธุรกิจในภาวการณ์ต่าง ๆ
