ธอส.จับตาลูกค้าพักชำระหนี้ล็อต 3 คาดชำระหนี้ได้ 50% จาก 9 พันล้านบาท เตรียมสำรองส่วนเกิน 5 พันล้าน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการชำระหนี้ของลูกหนี้สิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคาร ว่า มาตรการพักชำระหนี้ล็อตสุดท้ายที่จะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2564 วงเงิน 90,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าน่าจะมีจำนวน 9,000 ล้านบาทที่เป็นลูกหนี้กลุ่มมีความเปราะบางมากที่สุด เพราะมีการต่ออายุพักชำระหนี้ระยะเวลานาน ซึ่งอาจกลายเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือหนี้เสียจำนวน 4,500 ล้านบาท คิดเป็น 50 % ของมูลหนี้ รวมทั้งล็อตนี้เป็นตัวชี้วัดหนี้เสียที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นธอส.จึงเตรียมรับมือ โดยตั้งสำรองส่วนเกินให้เพียงพอมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และติดต่อลูกค้าให้ได้ทุกราย
นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับการชำระหนี้ในล็อตแรกที่สิ้นสุดเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีลูกหนี้ที่ไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท ต่อมาในล็อตที่สองสิ้นสุดเมื่อสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา 275,000 ล้านบาท มี 87% สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ 8.7% เป็นลูกหนี้ที่ชำระได้บางส่วน และชำระไม่ได้เลยคิดเป็น 4.5% ซึ่งยอดการชำระหนี้ในล็อตที่สองนี้ ถือว่า ดีกว่าที่คาดไว้ว่าจะชำระหนี้ไม่ได้ถึง 20% แต่ปรากฎว่ามีเพียง 4.5% เท่านั้น ส่วนหนี้เสีย(เอ็นพีแอล)ของธนาคารเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 3.68% หรือ 46,000 ล้านบาท ส่วนเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นอีกราว 2,600 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นหนี้เสียที่เกิดขึ้นใหม่ ส่วนการคาดการณ์ตลอดทั้งปีหนี้เสียจะอยู่ในระดับทรงตัว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารปี 2563 อยู่ที่ 210,000 ล้านบาท ขณะนี้ เดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 195,000 ล้านบาท อีกเพียง 14,000 ล้านบาทจะเป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าในเดือนธันวาคมจะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 23,000 ล้านบาท ด้านผลกำไรในปีนี้คาดจะอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 13,000 ล้านบาท เนื่องจาก ต้องกันไว้เพื่อสำรองการเลื่อนชั้นของลูกหนี้ ซึ่งขณะนี้ธนาคารสำรองไว้เกินเกณฑ์แล้วประทาณ 5,000 ล้านบาท
นายฉัตรชัย กล่าวถึงกรณีปัญหาการล่มของแอปพลิเคชันสถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งกระทบต่อการชำระหนี้ของลูกค้าของธนาคารนั้น ทาง ธอส.ได้แจ้งลูกค้าไปแล้ว ว่ามีการขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้งวดเดือนพฤศจิกายนออกไปอีก 4 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 4 ธันวาคมนี้ โดยธนาคารนับว่าไม่มีการผิดนัดชำระหนี้และไม่มีการส่งข้อมูลไปให้เครดิตบูโร กรณีนี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับธอส.แต่ทางธนาคารได้มีการป้องกันแก้ไขแล้ว ทางธอส.สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 30%
นายฉัตรชัย กล่าวว่าขณะนี้แอปพลิเคชัน GHB ALL มีผู้ใช้บริการแล้ว 8 แสนราย โดยตั้งเป้ามีผู้ใช้ 1 ล้านรายในสิ้นปีนี้ แต่เนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จำนวนผู้ใช้ไม่ครบตามเป้า จึงคาดว่าจะครบ 1 ล้านรายได้ในไตรมาสหนึ่งของปี 64 โดยเตรียมดึงลูกค้าเงินฝากและเงินกู้หันมาใช้ดิจิทัลเซอร์วิสของธอส.มากขึ้น