‘สุริยะ’ สั่ง จนท.จังหวัดลงพื้นที่ติดตามผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้

“สุริยะ” สั่ง จนท.จังหวัดลงพื้นที่ติดตามผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ ระบุโรงงานที่ได้รับผลกระทบแจ้งอุตฯ จังหวัดขอความช่วยเหลือได้โดยตรง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคใต้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ กระทรวงมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้อย่างมาก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานสถานการณ์และสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป เบื้องต้นอยู่ระหว่างประเมิน หากเสียหายมากจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือต่อไป ปัจจุบันโรงงานในภาคใต้มีเป็นจำนวนมาก มีการจ้างงานหลายหมื่นคน เบื้องต้นโรงงานที่เสียหายสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมาได้ที่อุตสาหกรรมจังหวัดโดยตรง

น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่า ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้นำสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เบื้องต้นอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ที่สำรวจ มีจำนวน 70 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 37 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 57 ราย มูลค่าความเสียหาย 26.8 ล้านบาท 2.ผู้ประกอบการเหมืองแร่ จำนวน 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 10.1 ล้านบาท และ 3.ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน จำนวน 5 ราย มูลค่าความเสียหาย 770,000 บาท

น.ส.สุชาดากล่าวว่า ได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงงานประกอบธุรกิจเหมืองแร่และโรงแต่งแร่ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอเซียเหมืองแร่อุตสาหกรรม จำกัด อ.ท่าศาลา ถูกน้ำท่วมเข้าไปในโรงงานทำให้ไม่สามารถดำเนินงานได้ และมีแร่บางส่วนที่เตรียมส่งมอบลูกค้าสูญหายไปกับน้ำ ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 6 ล้านบาท แห่งที่ 2 คือ บริษัท พี แอนด์ เอส แบไรท์ ไมน์นิ่ง จำกัด อ.ท่าศาลา น้ำท่วมโรงแต่งแร่ทำให้ต้องหยุดประกอบกิจการ มูลค่าความเสียหาย 3 แสนบาท เบื้องต้น จากนั้นได้ลงพื้นที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนคร แดรี่ พลัส อ.พระพรหม ประกอบกิจการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ถูกน้ำท่วมเครื่องจักรต้องหยุดประกอบกิจการ รวมถึงวัตถุดิบคือ น้ำนมดิบที่รับซื้อมาแล้วเสียหาย ต้องทิ้งทั้งหมด และทำให้ไม่สามารถส่งนมโรงเรียนได้ตามเวลาที่กำหนด ความเสียหายเบื้องต้นรวมกว่า 8 ล้านบาท และห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.ซี.จักรกล และก่อสร้าง อ.ร่อนพิบูลย์ ประกอบกิจการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตทุกชนิด และแอสฟัสท์ติกคอนกรีต ได้รับผลกระทบทั้งในโรงงาน รถทำถนนของบริษัทที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ตาชั่งและกำแพงโรงงานพังเสียหายทั้งหมด เสียหายเบื้องต้นกว่า 10 ล้านบาท

Advertisement

“ขณะนี้ในพื้นที่ประสบภัยมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบส่วนหนึ่ง และอาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ให้ข้อมูล ซึ่งทางกระทรวงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเหล่านี้แจ้งเข้ามายังอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่ที่โรงงานประกอบกิจการอยู่ เพื่อทางกระทรวงจะได้ให้หามาตราการในการช่วยเหลือต่อไป” น.ส.สุชาดากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image