‘ถาวร’ร่อนหนังสือเบรกทอท. บริหาร 3 สนามบินภูธร จี้ทย.เร่งเบิกจ่ายงบปี63 ส่วนสนามบินเบตงไม่เกินก.พ.ปีหน้าเปิดแน่
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย แก่ผู้บริหารกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า การพิจารณาให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้าบริหารงานท่าอากาศยานของ ทย. 3 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานชุมพร นั้นได้ทำหนังสือถึง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานการพิจารณาดังกล่าว เพื่อให้คำนึงถึงหลักกฎหมาย และความเท่าเทียม ซึ่งท่าอากาศยานทย. เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้ดำเนินการเพื่อแสวงหากำไร และไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนทางการเงิน แต่ทำเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน จึงขอให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
“ขณะนี้คณะทำงานฯ กำลังพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งผมยังยืนว่า ทย. มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถในการบริหารงานได้เหมือนกัน และผมยังรู้สึกหวงอยู่ เพราะ ทย. มี 6 สนามบิน ที่สามารถหารายได้ เพื่อไปเลี้ยงสนามบินเล็กๆ ให้สามารถบริการประชาชนต่อไปได้ นอกจากนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตให้คณะทำงานฯ ไปด้วยว่า หากจะให้มีการลงทุนบริหารในสนามบินของ ทย. ควรเป็นท่าอากาศยานที่มีรายได้น้อยจะดีกว่าเข้ามาบริหารสนามบินที่มีรายได้จำนวนมากอยู่แล้ว” นายถาวรกล่าว
นายถาวร กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา นั้น ขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทันในเดือนธันวาคมนี้ ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ แต่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดได้ภายใน 1-2 เดือนหลังจากนี้ หรือไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยมีสายการบินนกแอร์ และบางกอกแอร์เวย์ ยื่นข้อเสนอเพื่อให้รัฐช่วยสนับสนุนในการเปิดทำการบินที่ท่าอากาศยานเบตง โดยมอบให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาข้อเสนอลดหย่อนต่างๆ
นอกจากนี้ ได้ติดตามในเรื่องของมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการสายการบิน ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ต้องการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์จากโรคดังกล่าว โดยกรมท่าอากาศยานได้มีมาตรการ ดังนี้ 1.การปรับลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยาน และที่จอดอากาศยาน ของผู้ประกอบการสายการบิน ลดลง 50% ในช่วงเดือนเมษายน-ธันวาคม 2563 2.ลดอัตราเช่าพื้นที่ภายในท่าอากาศยานในสังกัด ทย. 50% เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนคม-31 สิงหาคม 2563 อาทิ ร้านค้าเชิงพาณิชย์ และสายการบิน เป็นต้น
นายถาวร กล่าวต่อว่า 3.ปรับลดอัตราดเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่าไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนด ผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานทุกราย เป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 ธันวาคม 2563 4.ขยายระยะเวลาการชำระเงินให้ผู้ประกอบการภายในทำอากาศยานทุกราย ในการทำสัญญาเช่า ซึ่งดำเนินการแล้วถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ จากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สั่งการให้ทุกท่ากาศยาน และทุกสายการบินเคร่งครัด เข้มงวด ตามข้อกำหนดของศบค. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำต่อไป
