‘การบินไทย’ เล็งขอเลื่อนส่งข้อมูลศาลอีก 1 เดือน หลังเคลียร์เจ้าหนี้ไม่จบ

‘การบินไทย’ เล็งขอเลื่อนส่งข้อมูลศาลอีก 1 เดือน หลังเคลียร์เจ้าหนี้ไม่จบ

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยนั้น ขณะนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อเตรียมเสนอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว การบินไทยยังจัดทำแผนส่วนอื่นควบคู่ไปกับการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการอีกด้วย

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าฟื้นฟูฯ ก่อนหน้านี้ศาลได้กำหนดให้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 2 มกราคม 2564 แต่บริษัทฯ ต้องเจรจาเจ้าหนี้ก่อน จึงสามารถร้องขอต่อศาลในการขยายเวลาออกไปได้ โดยจะยื่นศาลในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อขอขยายออกไป 2 กุมภาพันธ์ 2564 กระบวนการเมื่อมีการส่งให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ก็จะมีการเรียกประชุมเจ้าหนี้ และจัดประชุมในกลางเดือนมีนาคม 2564

นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า หากเจ้าหนี้เห็นชอบ ศาลจะพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 โดยมั่นใจว่าจะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ เมื่อได้รับอนุมัติก็จะเดินหน้าตามแผน อีกทั้งตามกฎหมายได้ระบุไว้ว่าต้องดำเนินการตามแผนแล้วเสร็จในช่วงแรก 5 ปี แต่สามารถขยายได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี โดยรวมจึงจะใช้เวลาดำเนินการแผนฟื้นฟูไม่เกิน 7 ปี

“การฟื้นฟูกิจการของการบินไทยจะประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหนี้และพนักงานทุกคน และแม้ว่าปัจจุบันการบินไทยยังไม่สามารถกลับมาทำการบินได้ตามปกติ เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่การบินไทยมีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งจะพยายามเสนอแผนฟื้นฟูกิจการที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดรวมถึงสภาวะทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเจ้าหนี้ต่อไป” นายชาญศิลป์ กล่าว

Advertisement

นายชาย เอี่ยมศิริ ผู้รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน และการบัญชี กล่าวว่า รายได้ของการบินไทยลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งการบินไทยพยายามรักษากระแสเงินสดในมือให้ได้นานที่สุด เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าโควิด-19 จะคลี่คลายเมื่อไหร่ ทั้งนี้ การบินไทยประเมินว่าควรได้รับการเห็นชอบแผนฟื้นฟูจากศาลล้มละลายกลางภายในเดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อสอดคล้องกับกระแสเงินสดที่มีอยู่

“ปกติเรามีรายได้ 1.4 -1.5 หมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่พันล้านบาทต่อเดือน บริษัทฯ พยายามลดค่าใช้จ่าย ไทม์ไลน์ตอนนี้คือไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2564 จะต้องได้รับความเห็นชอบจากศาล หากไม่ได้เราก็คงลำบาก ธุรกิจต่อเนื่องก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เราพยายามดึงกระแสเงินสดให้ไปถึงไทม์ไลน์ที่พูดไว้ แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับสเตคโฮลเดอร์ ด้วยที่จะช่วยทั้งคู่ค้า รัฐ และเจ้าหนี้” นายชาย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image