โควิดรอบใหม่ลุกลาม ศก.เสียหายต่อเดือนกว่า 2 แสนล้านบาท ฉุดจีดีพี 1.5%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจประชาชนต่อผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ที่กำลังเกิดขึ้น บนมาตรการที่รัฐบาลใช้ คือ ล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงเกิดโควิด และกระจายไปแล้ว 31 จังหวัด ซึ่งจะมีผลกระทบในลักษณะของการยกเลิกหรือเลื่อนการจัดอีเวนต์ ลดการเดินทางท่องเที่ยว และลดกำลังซื้อตามซื้อกระทบยอดขายร้านค้าปลีก นั้น ขณะนี้คาดว่าผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเสียหายวันละ 3,000-4,000 ล้านบาท เฉพาะในพื้นที่จ.สุมทรสาคร
แต่หากล็อกดาวน์ทุกจังหวัดจะเพิ่มเป็นวันละ 6,800 ล้านบาท และประเมินการล็อกดาวน์ 14 วันเฉพาะสมุทรสาครหรือสิ้นสุดวันที่ 3 มกราคม 2564 รวมเสียหายมูลค่า 30,000 ล้านบาท หากล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด เพิ่มขึ้น 5,000-60,000 ล้านบาท และหากยืดเยื้อเป็นเดือนและลุกลามไปทั่วประเทศ ทุก 1 เดือนจะกระทบต่อเศรษฐกิจรวมประมาณ 2-2.2 แสนล้านบาท หรือกระทบต่อจีดีพี 1.5%
“หลายฝ่ายคาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมได้และไม่ยืดเยื้อวงกว้างภายใน 14 วันนับจากเกิดแร่ระบาดในสมุทรสาคร หรือ อย่างช้าไม่เกิน 30 วัน ก็จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าคาดการณ์ไว้เดิมที่ปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 2.8% โดยเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 แต่หากปัญหาโควิดยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมกับปัญหาการเมืองและการค้าโลกชะลอจากโควิดรอบใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าบวกต่ำเหลือ 1.8% ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 30%” นายธนวรรธน์ กล่าว