ประเมินติดเชื้อ ‘โควิด19’ ยืดเยื้อ 1 เดือน สูญกว่า 2 แสนล้าน
พิษสงโรคติดเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่กำลังมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างช้าๆ ให้ทรุดตัวลงไปอีก จากการประเมินของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ระบุว่า จากการสำรวจบนมาตรการที่รัฐใช้ควบคุม คือล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงและกระจายไปแล้ว 31 จังหวัด จะมีผลกระทบในลักษณะของการยกเลิกหรือเลื่อนการจัดอีเวนต์ ลดการเดินทางท่องเที่ยว และลดกำลังซื้อตาม กระทบยอดขายร้านค้าปลีก
ขณะนี้คาดว่าผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจพื้นที่สมุทรสาครจะเสียหายวันละ 3,000-4,000 ล้านบาท หากล็อกดาวน์ทุกจังหวัดจะเพิ่มเป็นวันละ 6,800 ล้านบาท ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อเป็นเดือนทั่วประเทศ โดยทุก 1 เดือนจะกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมประมาณ 2-2.2 แสนล้านบาท/เดือน หรือกระทบต่อจีดีพี 1.5% คาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมได้และไม่ยืดเยื้อวงกว้างภายใน 14 วันนับจากเกิดแร่ระบาดในสมุทรสาคร หรืออย่างช้าไม่เกิน 30 วัน ก็จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าคาดการณ์ไว้เดิมที่ปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 2.8% โดยเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 แต่หากปัญหาโควิดยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมกับปัญหาการเมืองและการค้าโลกชะลอจากโควิดรอบใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าบวกต่ำเหลือ 1.8% ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 30%
นายธนวรรธน์ ยังกล่าวถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่า กลุ่มสำรวจส่วนใหญ่ 42.7% เห็นว่าบรรยากาศปีใหม่ 2564 จะคึกคักน้อยกว่าปี 2563 และจากปัจจัยลบต่างๆ ทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว มีผลต่อเงินสะพัดในปีใหม่นี้เหลือ 91,468 ล้านบาท ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทครั้งแรกในรอบ 9 ปี และเป็นวงเงินต่ำสุดในรอบ 10 ปี