ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่ โครงการชำระดีมีคืน สูงสุด 5,000 บาท ถึง 31 มี.ค.64

ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่ โครงการชำระดีมีคืน สูงสุด 5,000 บาท ถึง 31 มี.ค.64

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่ ธ.ก.ส.จึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนี้ โครงการชำระดีมีคืน และโครงการลดภาระหนี้ โดยระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 หรือจนกว่าจะครบวงเงินสำหรับโครงการชำระดีมีคืน

นายกษาปณ์กล่าวว่า โครงการชำระดีมีคืน สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ปกติ และไม่มีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน ซึ่งต้องมีหนี้คงเหลือ ณ 31 ตุลาคม 2563 กรณีเป็นบุคคล ได้รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 5,000 บาท และกรณีกลุ่มบุคคล สหกรณ์ นิติบุคคล ได้รับเงินคืนในอัตรา 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 50,000 บาท วงเงินงบประมาณ 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการชำระดีมีคืนมีเกษตรกรสนใจและเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 5 แสนราย หรือคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการลดหย่อนทั้งสิ้น 700 ล้านบาท โดยคาดว่าหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีลูกค้าเกษตรกรสนใจเข้ามาติดต่อเพิ่มมากขึ้น

นายกษาปณ์กล่าวว่า โครงการลดภาระหนี้สำหรับลูกค้าที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ค้างชำระ หรือสถานะหนี้ปกติที่มีดอกเบี้ยค้างชำระเกินกว่า 15 เดือน ซึ่งต้องมีหนี้คงเหลือ ณ 31 ตุลาคม 2563 กรณีลูกค้าบุคคลได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง และกรณีกลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล ได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง

Advertisement

นายกษาปณ์กล่าวว่า ธ.ก.ส.มีลูกค้าทั้งหมด 4.2 ล้านครัวเรือน ได้ทำการสำรวจหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว 87% จากการสำรวจพบว่ามีลูกค้าชำระหนี้ได้ตามปกติ 23% ลูกค้าที่มีหนี้คงค้างเกิน 15 เดือน 61% และลูกค้าที่ต้องตัดเป็นหนี้สูญ 16% แต่ขณะนี้ได้เกิดโควิด-19 รอบใหม่ ทาง ธ.ก.ส.จึงได้ทำการลงพื้นสำรวจอีกครั้ง เพื่อติดตามสถานะของลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2564

นอกจากนี้ นายกษาปณ์ยังกล่าวถึงเป้าหมายสินเชื่อของธนาคารในปีบัญชี 2563 ตั้งไว้ที่ 1.5 แสนล้านบาท ขณะนี้สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 30% ของเป้าหมายสินเชื่อทั้งหมด สาเหตุเนื่องจากเกษตรกรไม่สนใจการกู้เงินเพิ่ม รวมทั้งมาตรการพักและการขยายเวลาชำระหนี้ของรัฐบาลหลังสถานการณ์โควิด-19 ช่วยให้เกษตรกรมีสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าเมื่อสิ้นปีบัญชี 2563 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 7.35 หมื่นล้านบาท

นายกษาปณ์กล่าวว่า ส่วนเป้าหมายสินเชื่อปี 2564 นั้นยังไม่ได้สรุปตัวเลข ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนเพื่อเสนอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานบอร์ดของธนาคารต่อไป โดยจะพิจารณาประกอบกับการปล่อยสินเชื่อของปีบัญชี 2563 ด้วย ส่วนพอร์ตเงินฝากของธนาคารมีทั้งหมด 1.7 ล้านล้านบาท ในขณะที่พอร์ตสำหรับสินเชื่อมี 1.5 ล้านล้านบาท

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image