เปิดสารพัดมาตรการรัฐ มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. …”ลุงตู่”จัดให้!!

เปิดสารพัดมาตรการรัฐ มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. …”ลุงตู่”จัดให้!!

สวัสดีปีใหม่ 1 ม.ค. 64 ปีฉลู ปีใหม่นี้หลายคนไม่คุ้นเคยบรรยากาศ เพราะดำเนินไปแบบนิว นอร์มอล ท่ามกลางโควิด-19 ที่กลับมาแผลงฤทธิ์ใส่ประเทศไทยอีกครั้ง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำเป็นต้องมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ มาตรการ ขั้นตอนรัฐ รวมทั้งนโยบายต่างๆของภาครัฐ ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจในช่วงนี้

“ทีมเศรษฐกิจออนไลน์” ได้รวบรวมมาตรการให้ผู้อ่านแล้ว ใครเข้ามาตรการ หรือนโยบายไหน เช็คด่วน!!

*คลัง-แบงก์รัฐ แจกเงินสารพัดโครงการมีผล 1 ม.ค.

มาตรการของกระทรวงการคลังที่เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม หรือในช่วงเดือนมกราคมนี้ ประกอบด้วย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 จำนวน 5 ล้านคน วงเงิน 3,500 บาทและ จากระยะที่ 1 ได้รับเงินเพิ่ม 500 บาท เริ่มใช้จ่าย 1 มกราคม -31 มีนาคม 2564 มาตรการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 500 บาทเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม- มีนาคม 2564โดยโอนเงินเข้าทุกวันที่ 1 ของเดือน นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ADVERTISMENT

ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคานอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)ได้ขยายเวลาชำระเงินกู้ งวดเดือนธันวาคม 2563 ตั้งแต่ 1-5 มกราคม 2563 โดยไม่นับเป็นการผิดนัดชำระ ด้านธนาคารออมสิน เปิดฝากสลากอออมสิน ดิจิทัล 1 ปี พร้อมเพิ่มรางวัลพิเศษฉลองเทศกาลปีใหม่ 20 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ทำโครงการชำระดีมีคืน สำหรับลูกหนี้ดี และ โครงการลดภาระหนี้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดเมื่อ 31 มีนาคม 2564

*พลังงานช่วยค่าครองชีพ-ลงทุนใหญ่ 1.3 แสนล้าน

มาที่กระทรวงพลังงาน มีมาตรการช่วยเหลือด้านค่าครองชีพ ด้วยการขยายระยะเวลาการคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นแอลพีจี( แอลพีจี) 14.3758 บาทต่อกิโลกรัม มีตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564 มูลค่า 1,890 ล้านบาท พร้อมการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) ลง 2.89 สตางค์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 รวม 1,600 ล้านบาท และแจกคูปองส่วนลดอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว , สินค้าชุมชน กฟผ. ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 และใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 รวมมูลค่า 15.8 ล้านบาท รวมทั้งคูปองส่วนลดสำหรับที่พักที่เขื่อน กฟผ. ครึ่งราคา ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 และใช้สิทธิ์ได้ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 รวมมูลค่า 23 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังเตรียมลงทุนด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบายพลังงาน ปี 2564

*โครงการท่องเที่ยวตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ตลอดปี64

ปี 2564 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เห็นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเตรียมโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า ที่จะใช้วงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ผ่านบริษัทนำเที่ยว จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง

ขณะที่ ยังเตรียมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบายพลังงาน ปี 2564 คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินลงทุนให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศประมาณ 127,932 ล้านบาท อาทิ เร่งรัดการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 เมกะวัตต์ ส่งเสริมการใช้โซลาร์รูฟท็อปให้เติบโต 100 เมกะวัตต์ ส่งเสริมการลงทุนปิโตรเลียมระยะที่ 4 ในพื้นที่อีอีซี เตรียมความพร้อมการเปิดประมูลสิทธิการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 23 การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชา

*คมนาคม ลุย7นโยบายเด็ดๆโดนๆในปีนี้

ขณะที่กระทรวงคมนาคม จะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงสู่ภูมิภาค 7 นโยบาย ประกอบด้วย 1.การปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงเวลาหลัง 24.00-04.00น. 2.การศึกษารูปแบบเงื่อนไขการอนุญาตบริการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันแท็กซี่ 3.โครงการระบบบริหารจัดการตั๋วร่วม 4.แผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 5.การพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ เพิ่มสัดส่วนการขนส่งด้วยระบบราง 30% ภายใน 3 ปี

6.การพัฒนาขนส่งสินค้าทางน้ำจากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ เพื่อลดจำนวนบรรทุกจากภาคใต้ที่เข้าสู่กรุงเทพฯและปริมณฑล และ7.การส่งเสริมให้ท่าอากาศยานภูมิภาคเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่ายออกสู่ตลาด โดยนำร่อง 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี อุดรธานี และอุบลราชธานี

*ลุย3นโยบายเกษตร น้ำไม่ขาดแคลน-พึ่งดิจิทัล

ด้าน กระทรวงเกษตรและ​สหกรณ์​ จะดำเนินการ 3 เรื่องหลักในปี 2564 ประกอบด้วย 1.เรื่องการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากมีความสำคัญอันดับหนึ่งของภาคเกษตร ภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม หรือเรียกได้ว่ามีความสำคัญกับทุกภาคส่วน เพราะฉะนั้นการจัดสรรระบบน้ำในแต่ละภูมิภาคจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยยืนยันว่าน้ำอุปโภค บริโภคไม่ขาดแคลน 100%

2.ผลักดันหลักการตลาดนำการผลิต มาใช้ให้เป็นรูปธรรมและใช้กับพืชทุกตัว เพื่อลดปัญหาเรื่องความเสียหายของพืช และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และ 3.การปรับเปลี่ยนเกษตรกรเข้าสู่ยุคดิจิทัล หรือปรับเปลี่ยนให้เกษตรกรเป็นนักธุรกิจ ด้วยการเพิ่มทักษะด้านการขายและถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งด้านการผลิต และการตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าและรายได้ของเกษตรกร

*ดีอีเอส เปิดฤกษ์จดทะเบียน เอ็นที ผลงานควบรวมแคท-ทีโอ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มีภารกิจจัดตั้ง บริษัท เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จะดำเนินการ วันที่ 7 มกราคม 2564 โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่เอ็นที อยู่ระหว่างการคัดเลือกคนนอกเข้ามาทำหน้าที่

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการเสนอรายชื่อคณะกรรมการ มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แคท, น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ประธานบอร์ด ทีโอที, นายจุมพล ริมสาคร รองปลัดกระทรวงการคลัง, นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ และหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ต้องผ่านความเห็นชอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นเสนอคณะ กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณา ต่อไป

*ก.อุต ลุยมาตรการช่วยเหลือธุรกิจยุคโควิด

มาที่กระทรวงอุตสาหกรรม จะเดินหน้า ยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องจักร , ใบอนุญาต มอก. พร้อมแจกซอฟแวร์ฟรีสำหรับอสเอ็มอีไทย จำนวน 29 โปรแกรม ให้ใช้ 6 เดือน

ขณะเดียวกัน จะสนับสนุนให้ห้าง ร้าน ซื้อพลาสติกย่อยสลายทางชีวภาพ ลดหย่อนภาษี 1.25 เท่า พร้อมเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ สินเชื่อ “เสริมพลัง สร้งอนาคต SME ไทย” วงเงิน 1,000 ล้นบาท ดอกเบี้ย 196 ไม่เกิน 5 ล้านบาท/ราย โดยทั้งหมดมีผลในปี 2564

*ลดข้ามหมัดเด็ดพณ. สิ้นสุด 31 ม.ค.นี้

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ยังชูนโยบาย ลดกระหน่ำ ข้ามปี New Year Grand Sale 2021  16 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2564 รวมระยะเวลา 45 วัน ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนประมาณ 1,000 ล้านบาท

*ปรับเกณฑ์กู้เงินเงินซอฟต์โลนเอสเอ็มอี มีผล 1 ม.ค.

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ได้ปรับเกณฑ์การกู้เงินซอฟต์โลนสำหรับเอสเอ็มอี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564

โดยปรับนิยามคำว่า “กลุ่มธุรกิจ” แยกพิจารณาความสัมพันธ์ของบุคคลธรรมดาออกจากนิติบุคคล และเปลี่ยนวิธีปฏิบัติเรื่องจำนวนครั้งในการขอสินเชื่อ โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอียื่นขอกู้ซอฟต์โลนได้ไม่เกิน 2 ครั้ง จากเดิมที่กำหนดให้ยื่นขอกู้ได้เพียงครั้งเดียว ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังมีวงเงินกู้ซอฟต์โลนเหลืออยู่ สามารถกลับมายื่นขอสินเชื่อได้อีกครั้ง โดยฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก สำหรับการกู้ทั้ง 2 ครั้ง คิดดอกเบี้ย 2% นาน 2 ปี มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน และสินเชื่อซอฟต์โลนวงเงินไม่เกิน 20 % ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562