“แม่ทองสุก” ลุ้นกลางปีทองแตะ3หมื่น ชี้เป็น “สินทรัพย์” ที่ชอบความวุ่นวาย
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 มค.ว่า ภาพรวมตลาดทองคำ ทิศทางในปี 2564 ประเมินว่าราคาทองคำในประเทศน่าจะปรับระดับขึ้นแตะ 30,000 บาทต่อบาททองคำได้อีกครั้งในช่วงกลางปีนี้ เพราะขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มการที่ตลาดรอนโยบายนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงการอัดฉีดเงินเข้าระบบเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลายประเทศ ทำให้ตอนนี้เงินล้นโลกแล้ว จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำในปีนี้จะยังเป็นขาขึ้นอยู่ ส่วนแนวโน้มราคาทองคำต่างประเทศประเมินว่าจะยังเป็นขาขึ้นไม่แตกต่างกัน แม้ว่าในช่วงปลายปี 2563 การเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจลดความร้อนแรงลงบ้าง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว แต่ในช่วงต้นปี 2564 คาดว่าทองคำจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะมีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ และความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศที่กลับมาระบาดระลอกใหม่ขึ้น และในอีกหลายประเทศทั่วโลก จนเริ่มเห็นการกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้งแล้ว
“แม้ราคาทองในปี 64 เราจะมองว่าเป็นขาขึ้น แต่เชื่อว่าราคาคงจะไม่ปรับขึ้นแบบร้อนแรงเท่าปี 2563 เพราะธรรมชาติของราคาทอง จะเป็นสินทรัพย์ที่ชอบความวุ่นวาย ปี 2564 มีหลายสัญญาณที่ภาวะเศรษฐกิจโลกจะเริ่มนิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงผู้นำสหรัฐฯ ที่จะช่วยลดกระแสความขัดแย้งลงไปได้เมื่อเทียบกับผู้นำคนก่อน ทำให้ทิศทางสงครามการค้า (เทรดวอร์) น่าจะดูดีขึ้น จึงคาดว่าควจะไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อตลาดทองคำแล้ว” นายณัฐพงศ์ กล่าว
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ปัจจัยบวกต่อทองคำคือ การที่สหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำ 0.00-0.25% รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของธนาคารกลางสหรัฐ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อเเดือน ซึ่งถือปัจจัยบวกต่อการลงทุนในทองคำ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การมาของวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 และการกระจายใช้งานให้ทั่วถึงทุกประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถกระจายได้ทั่วถึงในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ทำให้การแพร่ระบาดรอบใหม่นี้ หากไม่ได้ส่งผลรุนแรงถึงขั้นทำให้หลายประเทศต้องประกาศล็อกดาวน์เป็นวงกว้างอีกระลอก เชื่อว่าสภาพคล่องที่ไหลเข้าสู่ระบบส่วนหนึ่งจะเข้ามาหาผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำ ซึ่งจะสนับสนุนให้ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ทองคำขณะนี้ตอบรับข่าวร้ายในเรื่องการมาของวัคซีนไปหมดแล้ว ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 แต่ยังเห็นราคาทองคำปรับลงไม่หลุดระดับ 1,800-1,820 เหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อทองคำที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนในปี 2564 มองว่าข่าวร้ายต่อตลาดทองคำน่าจะหมดลงแล้ว เหลือแต่ข่าวที่ส่งผลสนับสนุนแทน โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าในระบบของหลายประเทศ ทำให้เกิดภาวะเม็ดเงินสูญค่าเร็วขึ้น และจะได้เห็นภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้น ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปกป้องเงินเฟื้อ ทำให้ทองคำจะยังปรับขึ้นได้ต่อ” นายณัฐพงศ์ กล่าว
