หุ้นปิดบวกแรง 18.89 จุด หลังแวะแดนลบช่วงเปิดตลาด

หุ้นปิดบวกแรง 18.89 จุด หลังแวะแดนลบช่วงเปิดตลาด

วันที่ 4 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบสลับบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,449.35 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,468.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 18.89 จุด หรือ 1.30% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,468.27 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,425.48 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 89,208.19 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,730.23 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 332.87 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,211.40 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 3,608.75 ล้าน

โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับลดลงลึกกว่า 23.87 จุดในช่วงเปิดตลาด ก่อนจะปรับขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในช่วง และปิดบวกกว่า 18 จุด สาเหตุมาจาก 3 ปัยจัยหลัก ได้แก่ 1.การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการล็อกดาวน์อีกครั้งแน่นอน ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินต่อไป ความกังวลในส่วนนี้จึงลดลง เพราะที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่กังวลการล็อกดาวน์ที่สุด สะท้อนได้จาก หากประเทศใดมีการล็อกดาวน์ ก็จะเห็นหุ้นของประเทศนั้นๆ ปรับลดลงรุนแรง ทำให้ในระยะหลังเริ่มไม่เห็นการใช้แนวทางนี้ในการคุมการระบาดโควิด-19 แล้ว 2.บรรยากาศหลายด้าน อาทิ ราคาน้ำมัน ราคาสินค้รโภคภัณฑ์เร่งตัวขึ้นในช่วงต้นปี เพราะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงหุ้นตลาดยุโรปที่ปรับขึ้น จึงเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายขึ้น และ 3.กระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่เริ่มมีการไหลเข้า เพราะเห็นค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ ที่พบการระบาดในประเทศจนทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งฟันด์โพลว์ที่ไหลเข้ามาในขณะนี้ ไม่ได้กังวลการระบาดโควิด-19 มากนัก

“การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ขณะนี้เป็นลักษณะลงทุนในระยะกลางขึ้นไป และมองว่าเงินบาทยังมีเสถียรภาพสูง จึงมองว่าเป็นแหล่งพักเงินได้ รวมถึงมองว่าประเทศไทยจะสามารถควบคุมโควิด-19 ได้ โดยหากมองตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เทียบกับจำนวนประชากรยังค่อนข้างต่ำ หากเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย อีกทั้งยังเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศลดลงด้วย หากไม่นับผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้เม็ดเงินต่างชาติไม่มีทางเหลือ จึงต้องไหลเข้ามาตลาดไทย ซึ่งในปี 2563 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแล้วกว่า 2.6 แสนล้านบาท สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เน้นหุ้นที่อิงเศรษฐกิจ (โกลบอลเพย์) ก่อน อาทิ บีซีพี พีทีทีจีซี ซีพีเอฟ ท่าเรือสหไทย เอพีพี ส่วนหุ้นได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจ (โดเมสติกเพย) อาจถูกกระทบจากเรื่องกำลังซื้อที่ยังหดตัวอยู่” นายณัฐพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image