‘ตลาดหลักทรัพย์ฯ’ เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดทุนไทยปี 64-66 เดินหน้าสู่วิถีธุรกิจยุคใหม่
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ปรับตัวสู่วิถีธุรกิจใหม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน และเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของประเทศ ตอบสนองความท้าทายในโลกปัจจุบันที่อยู่บนวิถี VUCA คือ มีความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความซับซ้อน (Complexity) และความคลุมเครือ (Ambiguity) ทำให้กรอบการพัฒนาในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของประเทศอย่างมีสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม (Balanced Growth) รองรับสภาพแวดล้อมของตลาดทุน เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ตามวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ “To make the capital market “Work” for everyone”
นายภากร กล่าวว่า การดำเนินงานมีกรอบการพัฒนาสู่ความยั่งยืน 4 ด้าน ได้แก่ 1. สร้างการเติบโตในตลาดทุน โดยมีการเพิ่มหลักทรัพย์ใหม่ ส่งเสริมการระดมทุนของธุรกิจใหม่ และการขยายฐานผู้ลงทุน มุ่งเน้นการขยายช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้ลงทุนได้กว้างขึ้นและทำให้การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ควบคู่กับการตลาดดิจิทัลเพื่อวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลความรู้ บริการ และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ ให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และจะขยายความน่าสนใจของตลาดทุนไทยไปยังกลุ่มผู้ลงทุนต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการนำเสนอธีมผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนสถาบัน 2. ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะสร้างการมีส่วนร่วม และการต่อยอดธุรกิจใหม่ 3. ขับเคลื่อนสังคมและสิ่งแวดล้อม จะมีการปลูกฝังการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และเสริมสร้างพลังทางสังคม และ 4. เพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจและศักยภาพบุคลากร ให้มีความสามารถในการขยายตัวด้านธุรกิจ และมีความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน
นายภากร กล่าวว่า สรุปพัฒนาการสำคัญและความสำเร็จปี 2563 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ระดมทุน (ไอพีโอ) อยู่ที่ 5.55 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 2 ในเอเชีย และสูงสุดในอาเซียนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยมี บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าระดมทุนใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมีมูลค่าเสนอขายในกลุ่มค้าปลีกสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้านสภาพคล่องของตลาดหลักทรัพย์ฯ ครองอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนติดต่อกันตั้งแต่ปี 2555 โดยในปี 2563 มีวันที่มูลค่าซื้อขายเกิน 1 แสนล้านบาท ถึง 22 วัน และวันที่ซื้อขายสูงสุดอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท โดยเฉลี่ยมีมูลค่าซื้อขายต่อวัน 67,334.80 ล้านบาท ด้านจำนวนบัญชีใหม่เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 662,678 บัญชี จากสิ้นปี 2562 สรุปตัวเลขบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม 3.43 ล้านบัญชี ณ พฤศจิกายน 2563 โดยตลท. มีการปรับกฎเกณฑ์เพื่อรองรับความผันผวนของตลาด อาทิมาตรการ Market Disruption และปรับปรุงเกณฑ์เซอร์กิตเบรกเกอร์ เชื่อมโยงสินค้าและบริการในตลาดโลก