ลุ้นคิงส์เกตถอนฟ้องกลางปีนี้ ปมเหมืองอัคราฯ เดินหน้าลงทุนต่อ

ลุ้นคิงส์เกตถอนฟ้องกลางปีนี้ ปมเหมืองอัคราฯ เดินหน้าลงทุนต่อ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทเหมืองทองคำอังครา ระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย กับรัฐบาลไทย ที่อยู่ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ว่า ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าแก่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยผลการเจรจากับ บริษัท คิงส์เกตฯ ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าจะจบลงด้วยดีด้วยการถอนฟ้องรัฐบาลไทย และกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้ง ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ 2560 และพ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ 2560 นอกจากนี้บริษัท คิงส์เกตฯ อาจจับมือกับนักลงทุนไทยเพื่อลงทุนครั้งใหม่นี้ด้วย แต่ต้องรอผลการเจรจาในภาพรวมอีกครั้ง

“แนวโน้มการเจรจาเป็นไปด้วยดี และคาดว่าจะได้ข้อยุติช่วงกลางปีนี้ จากเดิมจะได้ข้อยุติต้นปีนี้ เพราะต้องมีการประสานงานในบางละเอียดเพิ่มเติมและรอบด้าน ทั้งนี้หากการเจรจาไม่ได้ข้อยุติ หลักการในการต่อสู้ของกระทรวงอุตสาหกรรม มาจากความต้องการดูแลประชาชนคนไทยไม่ให้รับผลกระทบจากการทำเหมืองดังกล่าว ดังนั้นจะไม่มีการจ่ายค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นในทุกกรณี”แหล่งข่าวกล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขั้นตอนล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาหาข้อยุติตามกรอบ ที่รัฐบาลได้ให้ไว้หลังจากได้ส่งเอกสารอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว หากเจรจาประสบผลสำเร็จจะได้ข้อยุติคดีก่อนที่อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศจะมีคำสั่ง แต่ถ้าเจรจาไม่ได้ข้อยุติ ก็ต้องรอฟังคำสั่งของอนุญาโตตุลาการต่อไป ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ยืนยันต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศว่าไม่เคยออกคำสั่งระงับการดำเนินกิจการของบริษัทอัคราฯ หรือสั่งปิดเหมืองเลย เพียงแต่ไม่ต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรม หรือโรงแต่งแร่ทองคำ และประทานบัตรบางแปลงที่หมดอายุลง เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากชาวบ้านถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง จึงชะลอการต่ออายุจนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องสิ่งแวดล้อม

“รัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นสิทธิที่ทำได้เพื่อปกป้องคนในประเทศ กรณีเหมืองทองคำของอัคราฯ ช่วงแรกที่ทำเหมืองไม่ได้สำรวจตรวจวัดค่าโลหะหนักในสิ่งแวดล้อมและในเลือดของประชาชน จึงไม่มีค่าเดิมมาอ้างอิงโลหะหนักที่พบในปัจจุบัน ทั้งนี้ถ้าอัคราฯ ต้องการกลับมาทำเหมืองแร่ ก็ทำได้ ให้มายื่นตามพ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 ซึ่งกำหนดให้ผู้ขอประทานบัตรและโรงแต่งแร่จะต้องตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อทำเป็นค่ากลางสำหรับตรวจสอบว่าเหมืองแร่ได้ก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพทุกปีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อชุมชนในอนาคต”แหล่งข่าวกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image