‘พิพัฒน์’ ชง ครม.วันนี้อุ้มท่องเที่ยว 5 สมาคมยื่นเรื่องร้องรัฐบาลช่วย
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ภายหลังการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1.สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) 2.สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) 3.สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) 4.สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และ 5.สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยภาคเอกชนได้ยื่นหนังสือ รวมข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น การหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) การลดค่าไฟฟ้า 15% ต่อหน่วยในช่วงภาวะวิกฤต การยืดระยะเวลาการยื่นภาษีประจำปี 2563 และการจ่ายค่าจ้างให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวในลักษณะร่วมกันจ่ายระหว่างรัฐบาลและเอกชน หรือโคเพย์ (Co-pay) ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% จำนวนเงินไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนำข้อเรียกร้องของเอกชนทั้งหมด หารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 มกราคม 2564
นายพิพัฒน์กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯมีแนวคิดการใช้โรงแรมและรีสอร์ตเป็นสถานที่กักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เรียกว่าในรูปแบบโฮเทล ควอรันทีน เป็นแนวคิดเดียวกันกับกอล์ฟ ควอรันทีน สามารถกักตัวในบริเวณโรงแรมได้ใน 14 วัน แตกต่างจากแนวคิด 10 บวก 4 ที่จะมีการกักตัวในห้องพัก 10 วัน และอีก 4 วัน นักท่องเที่ยวสามารถออกนอกห้องพักได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่บริเวณของโรงแรมเท่านั้น โดยโรงแรมที่จะเข้าร่วมโฮเทล ควอรันทีน จะต้องมีรั้วรอบอย่างชัดเจน และจะนำโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ (เอเอสคิวหรือเอแอลเอสคิว) เข้าร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภทยใต้วีซ่าประเภทพิเศษ (เอสทีวี) มีต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 1,000 คน และหลังจากกักตัวครบ 14 วันแล้ว พบว่าในจำนวนดังกล่าว ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่คนเดียว ถือว่าเป็นความสำเร็จในด้านจิตใจและความรู้สึก เนื่องจากสะท้อนให้เห็นแล้วว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา มีการดูแลตัวเองได้ดีไม่แตกต่างจากคนไทย จึงต้องการนำเสนอการกักตัวแบบโฮเทล ควอรันทีน แต่แนวทางดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนำข้อมูลหารือร่วมกันในเร็วๆ นี้ต่อไป
“แม้จะถือว่าไม่ประสบความสำเร็จในด้านจำนวน เพราะการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภายใต้วีซ่าเอสทีวี ยังเข้ามาในจำนวนค่อนข้างน้อย แต่ในด้านจิตใจ เชื่อมั่นว่าสร้างการรับรู้แล้วว่า ต่างชาติที่เข้ามา ไม่ได้เป็นตัวพาเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วย รวมถึงการเปิดประเทศรับต่างชาติ ยังมีปัจจัยสนับสนุนในการที่รัฐบาล ได้ปลดล็อกประเทศความเสี่ยงสูง กลาง หรือต่ำ โดยไม่ได้จำกัดแล้ว ขอแค่มีใบรับรองแพทย์จากประเทศต้นทาง และสามารถยืนยันตัวเองได้ว่าไม่มีเชื้อจริง รวมถึงพร้อมกักตัว 14 วัน ก็สามารถเข้ามาได้ ทั้งยังมีวีซ่าผ.30 หรือการเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องขอวีซ่า เพื่อการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ซึ่งประเทศที่ได้รับสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา มีทั้งหมด 56 ประเทศ” นายพิพัฒน์กล่าว
