“แลนด์ฯ” ลุยลงทุนต่อเนื่องผุดใหม่อีก 12 โครงการ ตั้งงบซื้อที่ดิน 6 พันล.

“แลนด์ฯ” ลุยลงทุนต่อเนื่องผุดใหม่อีก 12 โครงการ ตั้งงบซื้อที่ดิน 6 พันล.

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการบริษัทบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Booking) ไว้ที่ 28,000 ล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 30,000 ล้านบาท จากที่ปี 63 ที่ผ่านมาได้มีการตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 28,620 ล้านบาท มีการซื้อที่ดิน มูลค่าโดยรวม 4,600 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท ออกหุ้นกู้ มูลค่ารวม 8,400 ล้านบาท ระยะเวลา 2-3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.29% ต่อปี ขณะที่บริษัท LHMH ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการอีก 1 โครงการ คือโครงการ Grande Centre Point Lumpini บนที่ดิน 6-2-73.5 ไร่ ในรูปแบบ Mixed Use ประกอบด้วย โรงแรม จำนวน 512 ห้อง อาคารสำนักงาน 13,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 4,830 ล้านบาท แล้วเสร็จประมาณ Q1/2567 นอกจากนี้บริษัท LH USA ได้ขายโครงการอพาร์ทเมนท์ The Mode Residence ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ให้กับบุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัท ในราคา 80.05 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 2,415 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนภาษีประมาณ 13.77 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 416 ล้านบาท

“ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 47,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ประมาณ 92% และต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3% บริษัทฯ มีรายจ่ายด้านการลงทุนประมาณ 6,800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย 4,600 ล้านบาท และรายจ่ายในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท “นายนพรกล่าว

นายนพรกล่าวว่า สำหรับในปี 2564 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 11,000 ล้านบาท ประกอบด้วยงบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประมาณ 6,000 ล้านบาท และงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีกจำนวน 5,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวน 12,000 ล้านบาท และจากแผนดังกล่าวคาดว่าทั้งปี 2564 บริษัทฯ จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นปี 2563 โดยจะมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยลดลงกว่าระดับเฉลี่ย ณ สิ้นปี 2563 เล็กน้อย

นายนพรกล่าวว่า สำหรับภาวะตลาดที่อยู่อาศัยปี 2563 จากตัวเลขโดยรวมของบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะประเภทจัดสรร ตั้งแต่ ม.ค.- ต.ค. 2563 ยอดบ้านจดทะเบียนเพิ่มประเภทจัดสรร มีจำนวนรวมทั้งหมด 74,931 หน่วย ลดลง 9.5 % เทียบกับช่วงเวลา 10 เดือนของปี 62 ที่มีจำนวน 82,818 ยูนิต ประมาณการบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะที่จัดสรรที่เกิดขึ้นทั้งปี 2563 มีจำนวนรวม 87,350 ยูนิต ลดลง 10.7% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2562 ประเภทจัดสรร มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 97,838 ยูนิต ส่วนบ้านจดทะเบียนเพิ่ม เฉพาะประเภทจัดสรร ในช่วง 10 เดือนของปี 2563 และประมาณการรวมของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2562 จำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัยเฉพาะที่จัดสรร มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้ ประเภทบ้านเดี่ยว ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 8,777 ยูนิต ลดลง 27.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 62 ที่มีจำนวน 12,169 ยูนิต ประมาณการรวมทั้งปี 63 มีจำนวนรวม 10,550 ยูนิต ลดลง 22.2 % เมื่อเทียบกับทั้งปี 62 ที่มีจำนวนรวม 13,552 ยูนิต บ้านแฝด ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 2,113 ยูนิต ลดลง 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 62 ที่มีจำนวน 2,559 ยูนิต ประมาณการรวมทั้งปี 63 มีจำนวนรวม 2,550 ยูนิต ลดลง 15.7% เทียบกับทั้งปี 62 ที่มีจำนวนรวม 3,024 ยูนิต ส่วนทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์ ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 13,483 ยูนิตลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 62 ที่มีจำนวน 17,580 ยูนิต ประมาณการรวมทั้งปี 63 มีจำนวนรวม 16,350 หน่วย ยูนิต ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับทั้งปี 62 ที่มีจำนวนรวม 21,274 ยูนิต ขณะทีคอนโดมิเนียม ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 50,558 ยูนิต การเปลี่ยนแปลงค่อนข้างคงที่ เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 62 ที่มีจำนวน 50,510 ยูนิต ประมาณการรวมทั้งปี 63 มีจำนวนรวม 57,900 ยูนิต ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับทั้งปี 62 ที่มีจำนวนรวม 59,988 ยูนิต

Advertisement

นายนพรกล่าวว่า สำหรับภาวะตลาดที่อยู่อาศัยอาคารชุดในปี 2563 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในปี 2563 จากการสำรวจตลาดของบริษัท สรุปสาระสำคัญๆ ได้ดังนี้ จำนวนยูนิตที่ขายได้ ทั้งหมด 23,445 ยูนิต มูลค่า 92,305 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 31.0 เมื่อเทียบมูลค่ากับปี 2562 ขณะที่ปี 2563 มูลค่าที่ขายได้ รวมทั้งสิ้น 92,305 ล้านบาท มีสัดส่วนการขายที่เกิดจาก โครงการใหม่ (New Projects) มูลค่ารวม 18,166 ล้านบาท ลดลง 71.6% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีมูลค่ารวม 63,884 ล้านบาท และโครงการเก่า (Existing Projects) มูลค่ารวม 74,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับปี 2562

นายนพรกล่าวว่า ภาวะ Supply คงเหลือ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ สิ้นปี 2563 มีจำนวนโดยรวมทั้งหมด 71,022 ยูนิต มูลค่ารวม 326,742 ล้านบาท โดยจำนวนยูนิตที่เหลือมากสุด คือในระดับราคา ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขาย รวมทั้งหมด 30,157 ยูนิตคิดเป็นร้อยละ 42.5 ของจำนวนที่เหลือทั้งหมด แต่หากพิจารณาตามมูลค่า ปรากฎว่า ระดับราคาที่ 2.5 – 5.0 ล้านบาท มูลค่ารวม 79,019 ล้านบาท และระดับราคาที่ 5.01-10.0 ล้านบาท มูลค่ารวม 75,692 ล้านบาท มีสัดส่วนที่สูงถึง 24.2% และ 23.2 % ของมูลค่ารวมทั้งหมด ตามลำดับ

นายนพรกล่าวว่า ในปี 2563 ณ ต้นปี บริษัทฯ มีจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการ ทั้งสิ้นรวม 78 โครงการ เป็นโครงการในกทม. และปริมณฑล 50 โครงการ ต่างจังหวัด 28 โครงการ รวมโครงการที่เปิดใหม่ ระหว่างปี 16 โครงการ รวมโครงการที่เปิดดำเนินการในปี 63 มีจำนวนทั้งหมด 94 โครงการ สำหรับโครงการที่เปิดใหม่ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 28,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 11 โครงการ โครงการบ้านแฝด 3 โครงการ ทาวน์โฮม 3 โครงการ

Advertisement

นายนพรกล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 ณ ต้นปี 2564 บริษัทฯมีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 75 โครงการ โดยเป็นโครงการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 45 โครงการ และต่างจังหวัด 30 โครงการ และในปี 2564 นี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงานเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 20,660 ล้านบาท แบ่งแยกเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 11 โครงการ และต่างจังหวัด 1 โครงการ ทั้งนี้หากแบ่งตามประเภทของที่อยู่อาศัยได้ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 5 โครงการ บ้านแฝด 2 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 5 โครงการ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ รวมจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้นในปี 2564 ทั้งหมด 87 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายรวม 28,000 ล้านบาทและยอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตที่ขายในปี 2564 เท่ากับ 7.0 ล้านบาท (ปี 2563 ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 7.5 ล้านบาท) ส่วนของแผนการลงทุนในการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ในทำเลต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด งบประมาณรวม 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้การพิจารณาซื้อที่ดิน บริษัทจะพิจารณาทำเลที่สามารถนำมาพัฒนาโครงการได้ทันทีและมีศักยภาพที่ดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image