| ผู้เขียน | พรภค |
|---|
อินฟราฟัน : แผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อินฟราฟัน สัปดาห์นี้ จะพาทุกคนมาอัพเดตอีกหนึ่งโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคม อย่าง การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แม้ขณะนี้ไทยจะยังไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ เนื่องจากติดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถึงอย่างนั้น การพัฒนาโครงการนี้ต้องดำเนินต่อไป และถือเป็นโอกาสที่ดีในการเร่งพัฒนา เพื่อรองรับภายหลังสถานการณ์ฟื้นตัว ล่าสุด คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
เบื้องต้น คณะกรรมการได้มอบหมายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการพัฒนา 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 7,830 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร 2.อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 7,830 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร และ 3.โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี และขยายได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 41,260 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ 348,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างพัฒนารันเวย์ที่ 3 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ในการเพิ่มขีดความสามารถการรองรับเที่ยวบิน จาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 90 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หรือรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 90 ล้านคนต่อปี จาก 60 ล้านคนต่อปี
ดังนั้น เมื่อขีดความสามารถเพิ่มขึ้น ทอท.จำเป็นต้องสร้างอาคารรองรับ เนื่องจากขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในขณะนี้จะรองรับได้เพียง 60 ล้านคนต่อปี จากอาคารผู้โดยสารหลัก 45 ล้านคนต่อปี และอาคารเทียบเครื่องบินรอง หรืออาคารแซทเทิลไลท์ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2565 รองรับเพิ่มอีก 15 ล้านคนต่อปี
อย่างไรก็ดี แผนพัฒนาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารจาก 60 ล้านคนต่อปี เป็น 120 ล้านคนต่อปี สอดคล้องไปกับการปรับตัวช่วงโควิด-19 ที่ต้องมีระยะห่างระหว่างกัน เพราะหากผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงมีอาคารผู้โดยสารเพียงพอต่อการรองรับ
ส่วนแผนพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ คาดว่าจะใช้เวลาในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง 6 เดือน ก่อสร้าง 25 เดือน หรือแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2566 ขณะที่ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก จะใช้เวลาจัดซื้อจัดจ้าง 6 เดือน แต่เวลาก่อสร้างนาน 29 เดือน หรือหรือแล้วเสร็จเดือนมกราคม 2567
เชื่อว่าหากวัคซีนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่ปี 2565 ธุรกิจการบินจะกลับมาสยายปีกได้อีกเป็นแน่!!!
