รายงานข่าวจาก อีตั้น กรุ๊ป (ETON Group) ผู้นําเข้ารถยนต์ แจ้งเปิดตัวครั้งแรกและที่แรกในประเทศไทย กับรถยนต์อเนกประสงค์หรูขนาด 7 ที่นั่ง โอดิสซีย์ 2021 (All New Odyssey 2021) มาทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และเบนซิน เป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 เปิด-ปิดประตูสไลด์ทั้งสองด้าน โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เรียกว่า เกสเจอร์-คอนโทรล ดอร์ (Gesture-Control Door) ระบบเปิด-ปิดประตูโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส เพียงแค่ใช้มือ หรือข้อศอกเพื่อควบคุม เพิ่มความสะดวก
มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนซิ่ง (Honda Sensing) แบบเต็มระบบ เช่น ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor)
สําหรับระบบขับเคลื่อนไฮบริด ในชื่อ e:HEV (อี:เอชอีวี) เครื่องยนต์ไฮบริด (e:HEV HYBRID ABSOLUTE EX) ขนาด 2.0 ลิตร ทํางานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบ่งหน้าที่ในการขับเคลื่อนและชาร์จไฟฟ้ากลับไปยังแบตเตอรี่ ล้อขนาด 18 นิ้ว ให้กําลังสูงสุด 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนระบบเกียร์ E-CVT (Electrically-controlled Continuously Variable Transmission) มักใช้กับเครื่องยนต์ประเภท ไฮบริด อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 20 กม./ลิตร
ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน (ABSOLUTE EX) ขนาด 2.4 ลิตร ล้อขนาด 18 นิ้ว ให้กําลังสูงสุด 175 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนระบบเกียร์ ซีวีที 7 สปีด พร้อมแพดเดิลชิฟท์ (Continuous Variable Transmission)
มีขนาดกว้าง 1,820 มม. ความยาว 4,855 มม. ความสูง 1,695 มม. รูปลักษณ์ภายนอกปรับให้สปอร์ตมากขึ้น แผงกันชนหน้าแบบใหม่ และกระจังหน้าเป็นดีไซน์ใหม่ เน้นโครเมียมมากขึ้น ดีไซน์ลายเส้นบนฝากระโปรง, ไฟหน้า แอลอีดี ทรงใหม่ใหญ่กว่าเดิม, ประตูท้ายและไฟท้ายทรงใหม่ เพิ่มความหรูหรา
สําหรับในรุ่นท็อป มีฟังก์ชั่น เช่น สามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบ แฮนด์ฟรี โดยใช้เท้าเตะ มีที่วางแขนขนาดใหญ่สำหรับฝั่งคนขับ มีระบบไฟ แอลอีดี แอมเบียนท์ ไลท์ บริเวณเบาะโดยสารแถวกลาง รวมถึงขนาดล้ออัลลอยออกแบบมาพิเศษ 18 นิ้ว
ที่นั่ง 3 ตอน รองรับ 8 ที่นั่ง เน้นความสบายของที่นั่งแถวกลาง ส่วนเบาะแถวหลัง ถอดออกและปรับระดับมาด้านหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น ภายในห้องโดยสาร คอนโซลตกแต่งด้วยลายไม้ พรางช่องเก็บของ หน้าจอเพื่อความบันเทิงแบบสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 10 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงยังรองรับการเชื่อมต่อจาก แอปเปิล คาร์ เพลย์ และ แอนดรอยด์ออโต
ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ราคาเปิดตัวเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท เฉพาะ 5 คันแรก
