‘กสิกรไทย’ โชว์งบ 63 โกยกำไร 2.94 หมื่นล้าน ลดลง 23.86% เหตุตั้งสำรองป้องกันปัจจัยเสี่ยงอื้อ

‘กสิกรไทย’ โชว์งบ 63 โกยกำไร 2.94 หมื่นล้าน ลดลง 23.86% เหตุตั้งสำรองป้องกันปัจจัยเสี่ยงอื้อ

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปี 2563 ภาวะเศรษฐกิจไทยหดตัวลง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเนื่องมายังการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมถึงภาคการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว ส่วนทิศทางในปี 2564 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ จึงประเมินว่า เส้นทางการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และแรงหนุนส่วนใหญ่ยังมาจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยถือปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน (รวมถึง TFRS 9) ทำให้งบการเงินและอัตราส่วนทางการเงินบางรายการไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับปี 2562 ซึ่งทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2563 จำนวน 29,487 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 9,240 ล้านบาท หรือ 23.86% และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4 ปี 2563 จำนวน 13,258 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานที่ลดลง ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ธนาคารและบริษัทย่อยใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 9,536 ล้านบาท หรือ 28.04% ซึ่งเป็นการตั้งสำรองฯ ตั้งแต่ในครึ่งแรกของปีเป็นจำนวนรวม 32,064 ล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนในระดับสูงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผลกระทบที่รุนแรงทั้งในและต่างประเทศ อันเป็นวิกฤตการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในลักษณะนี้มาก่อน รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการของทางการที่ให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกค้านางสาวขัตติยากล่าว

นางสาวขัตติยากล่าวว่า แม้ในช่วงครึ่งปีหลังที่มาตรการช่วยเหลือลูกค้าทยอยสิ้นสุดลง เพราะลูกค้ายังสามารถผ่อนชำระได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ในปลายไตรมาส 4 มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ธนาคารจึงมีการทบทวนประเมินความเพียงพอของสำรองฯ พบว่าการตั้งสำรองฯ ในสามไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่เพียงพอแล้วธนาคารจึงพิจารณาตั้งสำรองฯ ในไตรมาส 4 ในระดับที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสามไตรมาสของปี โดยเมื่อรวมการตั้งสำรองฯ ในปี 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 43,548 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่สามารถรองรับความเสียหายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 6,334 ล้านบาทหรือบวก 6.17% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย และการปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.27% ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 11,934 ล้านบาท หรือ 20.65% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ลดลง และค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อลดลงจากการเปลี่ยนไปแสดงเป็นรายได้ดอกเบี้ย

สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ลดลงจำนวน 2,733 ล้านบาท หรือ 3.76% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของประมาณการค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าใช้จ่ายทางการตลาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจัดการหนี้เพิ่มขึ้น แม้ว่าในไตรมาส 4/2563 ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นจำนวน 3,825 ล้านบาท หรือ 23.26% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล และค่าใช้จ่ายในกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ ปี 2563 อยู่ที่ระดับ 45.19%

Advertisement

ทั้งนี้ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,658,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี2562 จำนวน 364,909 ล้านบาท หรือ 11.08% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 3.93% โดยธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งติดตามดูแลคุณภาพสินเชื่อของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ขณะที่สิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 3.65% อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) วันที่ 31 ธันวาคม2563 อยู่ที่ระดับ 149.19% โดยสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III วันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 18.80% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.13%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image