ปักหมุดมหานครผลไม้โลก 3หน่วยงานทำคลอดอีเอฟซี พลิกชีวิตเกษตรกรพื้นที่อีอีซี
เมื่อวันที่ 26 มกราคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดทำห้องเย็น ภายใต้โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (อีเอฟซี) ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก ถือเป็นก้าวสำคัญ เสริมความแข็งแกร่ง สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มฐานรากสำคัญของประเทศ บันทึกความร่วมมือฉบับนี้จะพัฒนาโครงการฯ ให้เกิดเป็นรูปธรรม โดย ปตท. ที่มีความพร้อมด้านห้องเย็น จะนำพลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) มาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร กนอ. จะสนับสนุนการจัดหาพื้นที่ และ สกพอ. จะประสานความร่วมมือส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์ให้หน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบห้องเย็น ให้บริการเก็บรักษาผลไม้ ตรงตามความต้องการของตลาด ช่วยให้ชาวสวนไม่ต้องรีบเก็บ รีบขาย รีบส่ง จนไม่ได้ราคา เสียคุณภาพ และเสียชื่อเสียง เมื่อโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออกสำเร็จ ชาวสวนจะมีรายได้ดีมั่นคง สม่ำเสมอ รวมทั้งต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางเกษตรแข่งขันได้ทั่วโลกเสริมความเข้มแข็งให้ประเทศไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางตลาดผลไม้โลก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมสนับสนุนการจัดทำระบบห้องเย็น ซึ่งเป็นโครงการหลักของโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก ให้ขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยมอบให้ กนอ. จัดหาที่ดินในโครงการนิคมอุตสาหกรร สมาร์ท พาร์ค ในระยะเริ่มต้น 40 ไร่ มั่นใจว่าโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก จะดึงดูดให้อุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง เข้ามาลงทุนในนิคมฯ เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการจ้างงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสกพอ. กล่าวว่า โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญคือ 1.ศึกษา ติดตาม ความต้องการของตลาด เป็นโครงการที่อยู่ในงบประมาณปี 2564 2.วางระบบการค้าสมัยใหม่ 3. การลงทุนทำห้องเย็นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย 4.การจัดระบบสมาชิก ชาวสวนผลไม้ สหกรณ์ และความร่วมมือในครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ฝ่ายคือ 1.ปตท. จะเป็นผู้ลงทุนจัดทำระบบห้องเย็นทันสมัยขนาด 4,000 ตัน 2. กนอ.จะเป็นผู้หาพื้นที่ 3. สกพอ.วางกลไกการบริหาร โครงการนี้จะนำร่องด้วยทุเรียน ราชาผลไม้ของไทย รวมทั้งอาหารทะเล และผลิตภัณฑ์ทั้งระบบ
