ปตท.สผ.ฟุ้งกำไรปี 63 ทะลุ 2.2 หมื่นล้าน จ่ายปันผล 4.25 บาทต่อหุ้น ลุยลงทุนปีนี้ 1.32 แสนล้าน
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้รวมในปี 2563 อยู่ที่ 167,418 ล้านบาท ลดลง 16% จากปี 2562 ซึ่งมีรายได้รวม 198,822 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลดลง 18% เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงมากในปี 2563 จากความต้องการใช้พลังงานที่ลดลงจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ประกอบกับในปี 2563 บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ โดยได้ตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ประเทศแคนาดา
จากการคาดการณ์ราคาน้ำมันในระยะยาวที่จะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยากต่อพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ และโครงการเยตากุน ประเทศเมียนมา
สาเหตุมาจากการปรับแผนการผลิตลดลงตามศักยภาพปัจจุบันของแหล่งผลิต นอกจากนี้บริษัทมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 354,052 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันและมีผลกำไรจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน เทียบเท่า 3,632 ล้านบาทจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 22,664 ล้านบาท ลดลง 54% จากปี 2562 โดยยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วยเงินสดในมือ 114,261 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจปิโตรเลียมต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก แต่บริษัทยังคงมีผลกำไรใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ และสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมาย อาทิ
การได้รับสิทธิสำรวจแปลง 12 ในโอมาน และการชนะการประมูลแปลงสำรวจออฟชอร์ 3 ในยูเออี การได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาให้เดินหน้าพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการขยายธุรกิจเออาร์วี เพื่อให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจรในรูปแบบของแพลตฟอร์ม และธุรกิจการบริการงานวิศวกรรมใต้ทะเล ตามแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ ผลงานดำเนินงานดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 มกราคม ได้อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล สำหรับปี 2563 รวม 4.25 บาทต่อหุ้น”นายพงศธร กล่าว
นายพงศธร กล่าวว่า ปี 2564 ปตท.สผ.ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้ง ธุรกิจใหม่ตามแผนกลยุทธ์ระยะยาว ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมอีก 6% ผ่านงบประมาณ 132,174 ล้านบาท เพื่อรักษากำลังการผลิตจากโครงการหลัก เร่งพัฒนาโครงการสำคัญเพื่อเริ่มการผลิตให้ได้ตามแผนที่วางไว้ และดำเนินกิจกรรมการสำรวจเพื่อการเติบโตในระยะยาว