ลงทุนอีอีซีปีนี้ต้องถึง3แสนล้าน “สุพัฒน์พงษ์” สั่งจูงใจเชิงรุก-แก้อุปสรรค ชิงจังหวะย้ายฐานผลิต-ชูโครงสร้างพื้นฐาน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ว่า ในปี 2564 แผนส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก( อีอีซี ) จะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยร่วมมือกับทั้งสำนักงานอีอีซี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายการลงทุนในปีนี้ไว้ 3 แสนล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50% เทียบจากปี 2563 โดยจะพบปะนักลงทุนที่ให้ความสนใจกับประเทศไทย คัดเลือกนักลงทุนเป้าหมาย แก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการลงทุนให้มีความสะดวกมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้มีกระแสการเคลื่อนย้ายลงทุนมาในภูมิภาคนี้มากขึ้น ขณะที่ไทยมีความพร้อมต่อการรับนักลงทุน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนในอีอีซี ปี 2563 (มกราคม-ธันวาคม 2563) มีการลงทุนทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่า 2.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศรวม 1.15 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของมูลค่าขอรับส่งเสริมทั้งหมดใน อีอีซี โดยพบว่าประเทศญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนใน อีอีซี สูงสุด มูลค่า 50,455 ล้านบาท คิดเป็น 44% และอันดับสองเป็นนักลงทุนจากจีน มูลค่าการลงทุน 21,831 ล้านบาท ด้านความคืบหน้า โครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนใน อีอีซี ในปี 2563 จาก 453 โครงการ ได้อนุมัติคำขอแล้ว 292 โครงการ คิดเป็น 64% ออกบัตรส่งเสริมแล้ว 172 โครงการ คิดเป็น 59% และได้เริ่มโครงการแล้ว79 โครงการ คิดเป็น 46%
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบความก้าวหน้าโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (อีเอฟซี) เพื่อช่วยเกษตรกรรายได้มั่นคง ผลไม้ไทยแข่งขันได้ทั่วโลก โดยสำนักงานอีอีอี การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ได้ลงนามความร่วมมือในการพัฒนาแล้ว รวมทั้งรับทราบการพัฒนาทักษะบุคลากรในอีอีซี จะดำเนินการเพิ่มเติม 3 โครงการ ทำให้ภายในปี 2565 อีอีซีพัฒนาทักษะบุคคลากร รวมทั้งสิ้น 91,846 คน ด้านโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จะส่งมอบพื้นที่อย่างช้าภายในเดือนกันยายน 2564
รายงานข่าวแจ้งว่า ปี 2562 มีการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ทั้งสิ้น 465 โครงการ มูลค่า 3.82 แสนล้านบาท แต่ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้การลงทุนในอีอีซีลดลงอย่างชัดเจน เหลือจำนวน 453 โครงการ มูลค่า 2.08 แสนล้านบาท
