ถาวร เร่งทย.ทำแผนหารายได้จาก 29 สนามบินต่างจังหวัด ชดเชยโควิดพ่นพิษ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางการบูรณาการและการประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านการคมนาคมทางอากาศว่า ที่ประชุมได้มอบให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.), บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) นำเสนอปัญหา อุปสรรค และแนวทางออกในการแก้ไขปัญหาด้านการบินร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า แม้ทั้ง 4 หน่วยงานจะมีการบูรณาการร่วมกันในการทำงานบ้างอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นหลายกรณี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการขึ้นและลงของเครื่องบินในบางสนามบิน อาทิ ท่าอากาศยานกระบี่ มีการสร้างอาคารใหม่บดบังทัศนวิสัยของหอบังคับการบินของ บวท. และท่าอากาศยานเบตง มีต้นไม้ที่บดบังทัศนวิสัยในการร่อนลงจอด เป็นต้น

นายถาวร ยังกล่าวถึงภาพรวมรายได้ของธุรกิจการบินปี 2563 ว่า ลดลงเหลือประมาณ 10% ซึ่งทั้งปริมาณผู้โดยสาร และรายได้ลดต่ำสุดในเดือน เมษายน 2563 จากนั้นได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นจนปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50-60% แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ มีการปรับตัวลดลงเล็กบ้าง แต่เบื้องต้นคาดว่าแนวโน้มรายได้ในปี 2564 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2563 เนื่องจากจะมีวัคซีนเข้ามาไทยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตามเดิมคาดว่าการบินภายในประเทศจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงปี 2565-2566 และระหว่างประเทศจะฟื้นตัว ปี 2566-2567 แต่ขณะนี้เมื่อต้องเจอกับโควิด-19 ระลอกใหม่ จึงต้องรอดูผลการประเมินจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) อีกครั้ง

นายถาวร กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ ทย. เร่งจัดทำแผนหารายได้จาก 29 สนามบิน เพื่อชดเชยรายได้จากผู้โดยสารที่ลดลงในช่วงโควิด-19 อาทิ บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Cargo), บริการภาคพื้น ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ฝ่ายธุรกิจ ดูแลบริหารจัดการพื้นที่ภายในท่าอากาศยานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น การให้เช่าพื้นที่ทำโรงซ่อมอากาศยาน (Hangar) เป็นต้น

รายงานข่าวจาก ทย. แจ้งว่า สำหรับรายได้รวมของ ทย. ปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 812.62 ล้านบาท ลดลง 41.56% หรือลดลงประมาณ 400 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2562

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image