‘โกลเบล็ก’ แนะช้อปหุ้นได้อานิสงส์กัญชง
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,430 -1,500 จุด โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนียืนในแดนบวกระยะสั้น ได้แก่ กรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายพื้นที่ควบคุมกทม. ขณะที่บริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน เตรียมส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ให้สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มเติมอีก 9 ล้านโดส ในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งผลทำให้ยอดรวมการส่งมอบของช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 40 ล้านโดส และคาดว่าจะทยอยเริ่มส่งมอบเร็วกว่ากำหนด 1 สัปดาห์
ประกอบกับซาอุดีอาระเบีย ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 ส่งผลให้เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบดับเบิ้ลยูทีไอ จะยังสามารถยืนเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า นักลงทุนยังคงต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากดัชนีแกว่งตัวผันผวนในลักษณะผันผวนลง (ไซด์เวย์ดาวน์ หลังจากดัชนีได้ปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,500 จุดไป พร้อมกับเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่ไหลออก ประกอบกับยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้าสนับสนุน
“ยังคงต้องจับตาปัจจัยในประเทศ อาทิ การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นนัดแรกของปี 2564 ซึ่งจากคาดการณ์มีทั้งที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เราคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป และระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์นี้ ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และลงมติในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ รวมถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก เดือนธันวาคม 2563 ลดลงแรง เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นการลดลงเดือนแรก นับจากเดือนกันยายน 2563 เพราะมีการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ จึงอาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในอีก 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2564) มีแนวโน้มลดลงตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยกลางระดับ 50 ซึ่งตํ่ากว่าความเชื่อมั่นในเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ด้วย” นางสาววิลาสินี กล่าว
นางสาววิลาสินี กล่าวว่า เนื่องจากประเมินแล้วพบว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวน ฝ่ายกลยุทธ์จึงแนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์การขออนุญาตปลูกกัญชงเพื่อการค้า ได้แก่ DOD ICHI CBG OSP SAPPE DDD และ RBF พร้อมทั้งแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการของภาครัฐจากโครงการเราชนะที่มีกำหนดโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในเดือนกุมภาพันธ์ ได้แก่ TNP KK CPALL BJC และ MAKRO
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มองว่า ทิศทางการลงทุนในทองคำ ประเมินแนวรับที่ 1,800 -1,820 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยมองภาพรวมของการลงทุนในทองคำมีโอกาสรีบาวด์ แต่หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,860-1,870 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ให้ระวังแรงขาย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ10 ยังทรงตัวใกล้ระดับ 1.07 % เป็นปัจจัยกดดัน ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าเพิ่มขนาดงบดุล จะส่งผลบวกต่อการพยุงราคาทองคำ
