บาทแข็งโป๊ก! กสิกรฯคาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ

แฟ้มภาพ

“เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือนที่ 34.53 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ (โดยในระหว่างสัปดาห์ 15-19 ส.ค. นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 3.87 พันล้านบาท และ 25.52 พันล้านบาท ตามลำดับ) นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงเทขายเป็นระยะ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟด และถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้ตลาดยังคงมีความลังเลในการประเมินโอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมช่วงที่เหลือของปี

สำหรับในวันศุกร์ (19 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 34.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (22-26 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศจะอยู่ที่กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนทั่วโลกน่าจะรอจับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดจะเข้าร่วมประชุมผู้นำธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ็คสัน โฮลในรัฐไวโอมิงของสหรัฐฯ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 2/2559 (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นสำหรับเดือนส.ค. ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

Advertisement

ค่าเงินบาท-กสิกรฯ

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,538.76 จุด ลดลง 0.89% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 12.65% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 63,517.94 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 523.27 จุด ลดลง 0.61% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ หลังเกิดเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการถือครองหุ้นลง ก่อนที่ดัชนีจะปรับพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ตอบรับความเห็นที่แตกต่างกันในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งทำให้ตลาดยังคงไม่ให้น้ำหนักมากนักต่อโอกาสของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นปรับลดลงอีกครั้งในวันศุกร์ จากแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (22-26 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,525 และ 1,510 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,550 และ 1,570 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมผู้นำธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ็คสัน โฮลในรัฐไวโอมิงของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดซื้อบ้านใหม่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมทั้งจีดีพีไตรมาส 2/59 (รายงานครั้งที่ 2) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2/2559 ของเยอรมนี รวมทั้ง ดัชนี PMI ของ เยอรมนี ญี่ปุ่น และยูโรโซน

ECON

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image