สกู๊ปหน้า 1 : ป้ายทะเบียนพิเศษ หวังโกย 1 พันล้านต่อปี ตอบโจทย์รัฐหรือไม่?
และแล้วที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ฉบับที่ …) พ.ศ. … เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้กำหนดตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลข เมื่อผสมแล้วเป็นชื่อบุคคลก็ได้ หรือชื่อเฉพาะและแผ่นป้ายทะเบียนจะยังคงมีหมายเลขทะเบียนปรากฏ
ระบุเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เบื้องต้น 6 ข้อ ประกอบด้วย
1.แผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ ให้มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลขได้ โดยบรรทัดที่หนึ่ง ประกอบด้วยตัวอักษรประจำหมวดตัวที่หนึ่ง ตัวอักษรประจำหมวดตัวที่สอง และหมายเลขทะเบียนไม่เกินสี่หลัก ส่วนบรรทัดที่สอง เป็นตัวอักษรแสดงชื่อกรุงเทพฯ หรือจังหวัดที่จดทะเบียน เว้นแต่กรณีจดทะเบียนที่ อ.เบตง จ.ยะลา ให้ใช้คำว่า เบตง
ทั้งนี้ ตัวอักษรให้ใช้ตัวอักษรไทยหมายเลขทะเบียนให้ใช้ตัวเลขอารบิก และทั้งตัวเลขและตัวอักษรให้อัดเป็นรอยดุน
2.แผ่นป้ายทะเบียนพิเศษ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหมวดอักษรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี และไม่มีเจตนาในทางทุจริต 3.การกำหนดชื่อเฉพาะดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และต้องได้รับอนุญาต
กรณีที่ผสมกันแล้วมีความหมายในทางลบหรือเป็นคำไม่สุภาพ จะไม่อนุญาตให้ใช้เป็นตัวอักษรในแผ่นป้ายทะเบียนโดยเด็ดขาด
4.แผ่นป้ายทะเบียนพิเศษ ที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วออกประมูลเป็นการทั่วไป จากนั้นจะนำรายได้เข้ากองทุน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
5.การดำเนินการหลังจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงที่ผ่านการตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป และ
6.คาดเตรียมเปิดใช้ภายในกลางปี 2564 นี้
สำหรับแนวคิดในการจัดทำป้ายทะเบียนพิเศษ ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ป้ายทะเบียนพิเศษจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับเจ้าของรถกำหนดหมวดเป็นชื่อที่ต้องการ และกำหนดตัวเลขเองได้ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจองขอใช้ชื่อและตัวเลขที่ต้องการสำหรับป้ายพิเศษเพิ่มจากป้ายปกติ
เชื่อว่าจะมีประชาชนสนใจแน่นอนเพราะจะมีเอกลักษณ์พิเศษ รวมทั้งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนเพื่อความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีเงินสะสมในกองทุน กปถ.ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากการประมูลป้ายทะเบียนเลขสวย
เบื้องต้น กรมการขนส่งทางบกคาดว่าการเปิดให้ขอทะเบียนพิเศษจะทำให้กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี
ด้านกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมาให้ข้อมูลว่า การแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะแผ่นป้ายทะเบียนพิเศษดังกล่าว จะเป็นการแก้ไขเพื่อให้ใช้อักษรได้มากกว่า 2 ตัว และผสม สระ วรรณยุกต์ได้ ในป้ายทะเบียนรถยนต์ โดยจดทะเบียนเป็นชื่อเฉพาะพิเศษ หรือชื่อบุคคล เป็นต้น แต่การแก้ไขดังกล่าวจะยังคงมีหมายเลขปรากฏอยู่ในทะเบียน
เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกจะแก้ไขยกร่างกฎกระทรวงให้แล้วเสร็จ และเสนอไปยังกฤษฎีกาลงนาม ก่อนส่งกลับมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงนามเห็นชอบ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในกลางปี 2564 เพื่อให้ผู้ที่สนใจแผ่นป้ายทะเบียนพิเศษขึ้นทะเบียนกับ ขบ. และเปิดประมูล
ขั้นตอนการดำเนินการ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะจดทะเบียนป้ายแบบพิเศษนี้ ต้องมาแจ้งขอจดทะเบียนพิเศษก่อน เพื่อตรวจสอบชื่อที่ใช้ว่ามีความเหมาะสม ก่อนที่จะขึ้นทะเบียน และนำไปประกาศให้ผู้สนใจชื่อในลักษณะนี้ทราบ และกรมการขนส่งฯ จะกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำ เพื่อใช้ในการประมูลต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าป้ายทะเบียนพิเศษเฉพาะชื่อบุคคลนี้ จะไม่อยู่ในกลุ่มหมายเลขจำนวน 301 หมายเลข ในแต่ละหมวดพยัญชนะ ที่กรมการขนส่งทางบกนำออกมาประมูลอยู่ เพื่อไม่ให้กลุ่มป้ายทะเบียนพิเศษชุดนี้ไปทำให้กลุ่มหมายเลขประมูล 301 หมายเลข ราคาประมูลด้อยค่าลง ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับหมายเลขทะเบียนและหมวดอักษรป้ายทะเบียนรถในปัจจุบัน ซึ่งยังคงเปิดให้ประชาชนจองได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ ของกรมขนส่งทางบก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
และไม่ส่งผลกระทบกับหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยจำนวน 301 หมายเลขที่กรมการขนส่งทางบกนำออกประมูลเป็นการทั่วไปในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นคนละกลุ่ม
ส่วนป้ายทะเบียนพิเศษนี้จะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน คงต้องประเมินกันอีกครั้ง โดยการประมูลป้ายทะเบียนแบบพิเศษนี้ ไม่ใช่ประเทศไทยทำเป็นประเทศแรก มีหลายสิบประเทศที่ประมูลป้ายทะเบียนเฉพาะชื่อบุคคล ชื่อมงคล และชื่อที่ชอบ อาทิ สหรัฐ อังกฤษ ฮ่องกง เป็นต้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดป้ายทะเบียนพิเศษ
เบื้องต้นหากเป็นเลขที่อยู่ในกลุ่มที่มีราคาสูงจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 ล้านบาท แต่หากเป็นหมวดตัวเลขธรรมดา อาทิ 1661 อาจมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท เป็นต้น
คำขอที่เสนอมาจะนำขึ้นเว็บไซต์หากไม่มี
ผู้สนใจเลขทะเบียนพิเศษ ผู้ที่เสนอเลขทะเบียนเข้ามาก็จะได้รับสิทธิไปในราคาขั้นต่ำ แต่หากมีการเสนอขอใช้ชื่อซ้ำกันจะต้องมีการประมูล ใครที่ให้ราคาสูงกว่าก็จะได้รับป้ายนั้นไป
วิธีการประมูลแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
คือ 1.ประมูลผ่านเว็บไซต์ 2.การประมูลด้วยวาจาผ่านห้องประมูล ซึ่งผู้ที่เสนอขอเลขทะเบียนพิเศษเข้ามาไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตนต่อสาธารณชนก็ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาแนวทางต่างๆ ยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
ส่วนความกังวลว่าหากมีการใช้ป้ายทะเบียนพิเศษที่ประชาชนกำหนดตัวอักษรได้เองแล้วจะเกิดผลในแง่ลบนั้น ทาง ขบ.มองว่าทุกเรื่องมีทั้งมุมลบและบวกเสมอ
แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบร้ายแรง แต่เมื่อมองไปในมุมบวกหากมีบริษัท ที่ต้องการเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นชื่อบริษัท แต่เลขที่กำหนดต้องแตกต่างกัน ก็จะช่วยสร้างความจดจำให้กับผู้คนที่สัญจรบนถนน ซึ่งถือว่าเป็นการโฆษณาบริษัทนั้นๆ ไปในตัวอีกด้วย
สำหรับในส่วนของลวดลายของทะเบียนพิเศษ จะกำหนดในหลักเกณฑ์อีกครั้งว่า จะเป็นป้ายปกติหรือป้ายที่ได้จากการประมูลเลขสวย
แต่ทั้งนี้ หากต้องการป้ายทะเบียนที่มีลวดลายที่ออกแบบมาเองก็สามารถทำได้ ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับป้ายนี้ขั้นต่ำ 25 ล้านบาท และต้องให้ ขบ.เป็นผู้อนุมัติเห็นชอบ และตรวจสอบแบบที่ออกแบบมาอีกครั้ง ซึ่งต้องไม่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม
คงต้องติดตามความชัดเจนของหลักเกณฑ์ในการประมูลว่าจะเป็นเช่นไร และจะตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างที่ภาครัฐหวังไว้หรือไม่
