ตรุษจีนกร่อย ‘ม.หอค้า’ ชี้ใช้จ่ายหดรอบ 13 ปี ลบ 21.8% สะพัดแค่ 4.5 หมื่นล้าน

ตรุษจีนกร่อย ‘ม.หอค้า’ ชี้ใช้จ่ายหดรอบ 13 ปี ลบ 21.8% สะพัดแค่ 4.5 หมื่นล้าน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ที่ตรงกับช่วง 10-12 กุมภาพันธ์ ที่สำรวจวันที่ 25 มกราคมถึง 3 กุมภาพันธ์ 2564 จากประชาชน 1,215 ราย พบว่า 62.7% ระบุบรรยากาศตรุษจีนปีนี้คึกคักน้อยลง 25.2% ระบุคึกคักเท่าเดิม เพียง 12.1% ระบุมากกว่าปีก่อน โดย 42.2% ระบุใช้จ่ายลดลงและ 33.2% ใช้จ่ายเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลดลง ลดค่าใช้จ่ายและวิตกโควิดระบาดกระทบต่อรายได้และจ้างงานในอนาคต จึงทำให้ 80% ระบุซื้อสินค้าในปริมาณและมูลค่าเท่าเดิมหรือลดลงบ้าง และ 91.5% ระบุไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดตรุษจีน แต่ส่วนที่จะท่องเที่ยว 75% จะขับรถไปเอง งดเดินทางด้วยรถโดนสารสาธารณะ

“ตรุษจีนปีนี้ถือว่ากร่อย คาดเงินสะพัดจะเหลือ 4.5 หมื่นล้านบาท ติดลบถึง 21.8% เทียบตรุษจีนปีก่อน ที่มีมูลค่า 5.7 หมื่นล้านบาท และติดลบ 1.30% ถือว่าปีนี้ติดลบมากสุดในรอบ 13 ปีนับจากทำการสำรวจปี 2552 และติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งมูลค่าเงินที่สะพัดที่ลดลงกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น กระทบต่อจีดีพี 0.05-0.07% แต่สะท้อนถึงความกังวลต่อรายได้และการใช้จ่ายของประชาชนสูงขึ้นมาก ดูจากปีก่อนที่เกิดโควิดรอบแรก กระทบต่อจีดีพีลบ 6.3% ใช้จ่ายตรุษจีนลด 1.30% แต่ปีนี้คาดจีดีพีโต 2.8% บนพื้นฐานรัฐออกมาตรการกระตุ้นบริโภค 4 โครงการ อาทิ คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน เที่ยวด้วยกัน ที่ช่วยกระตุ้นจีพีดีถึง 1.2-1.5% แต่การใช้จ่ายตรุษจีนยังลบถึง 21.8% จึงเป็นประเด็นสะท้อนมาตรการและงบประมาณรัฐมีช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้มากขึ้น” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สอดคล้องกับพรที่ประชาชนต้องการให้ตรุษจีนนี้ คือขอให้อาชีพการงาน การเงินมั่นคง หมดหนี้ ไม่ติดโควิด และการเมืองมีเสถียรภาพ พร้อมกับแสดงความวิตกต่อการแพร่ระบาดมีอยู่ในช่วงตรุษจีน จนอาจกระทบต่อการทำกิจกรรมต่างๆ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image