สมุนไพรไทยคึกคักโตแซงจีน ก.เกษตรดันปลูกทั่วประเทศ

สมุนไพรไทยคึกคักโตแซงจีน ก.เกษตรดันปลูกทั่วประเทศ

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการบริโภคสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในไทย ระหว่างปี 2560- 2562 มีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ต่อปี โดยเมื่อปี 2563 มีพื้นที่การผลิต 45,990 ไร่ ปริมาณผลผลิตรวม 114,975 ตัน การผลิตพืชสมุนไพรที่เพิ่มขึ้นนี้ เนื่องมาจากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งเสริมให้โรงพยาบาลของรัฐนําสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรคควบคู่กับการใช้ยาแผนปัจจุบัน รวมถึงสถานการณ์การแพร์ระบาดของโควิด-19 ทําให้ประชาชนสนใจและต้องการใช้พืชสมุนไพรในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการตื่นตัว ในขยายปลูกพืชสมุนไพรเพิ่มมากขึ้น

นายทองเปลว กล่าวว่า ล่าสุดมีเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนรวม 2,866 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันผลิตสมุนไพรตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีการรวมกลุ่มผลิตสมุนไพรในรูปแบบแปลงใหญ่ จำนวน 34 แปลง ใน 21 จังหวัด 1,531 ราย พื้นที่ 5.5 พันไร่ ซึ่งในปี 2565 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ของบประมาณ เพื่อจัดทําโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิต สินค้าพืชสมุนไพร โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด

สำหรับ มูลค่าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศ มีอัตรการเติบโตเฉลี่ย 10.3% ภายหลังประกาศใช้ แผนแม่บทฯ ซึ่งมากกว่า จีน ที่เติบโตเฉลี่ย 5.06% เกาหลีใต้ 5.43% และญี่ปุ่น 0.85% การส่งออกพืชสมุนไพรอยู่ในรูปวัตถุดิบแห้งและบด สารสกัดหยาบและผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกส่วนใหญ่ของสมุนไพรแฝงอยู่ในสินค้าหลายประเภทที่ไม่ได้นำมารวมมูลค่า อาทิ สินค้าเครื่องสำอาง เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส อาหาร ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านค้า การนวดและสปา ดังนั้น ตลาดสมุนไพรจึงเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ตลาดส่งออกที่บริโภคสมุนไพรที่สำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐ เป็นต้น

นายทองเปลว กล่าวอีกว่า ส่วนตลาดอาเซียน การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านประสบการณ์การศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เภสัชอุตสาหกรรมและการตลาด แต่ในภาคการผลิตวัตถุดิบสมุนไพรที่เป็นต้นน้ำ จำเป็นต้องเร่งเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของเกษตรกร ทั้งด้าน คุณภาพ ต้นทุนและแรงงาน เพื่อแข่งขันกับวัตถุดิบราคาถูกจากประเทศสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image