โฆษกกองสลากชี้กำลังซื้อหวยช่วงตรุษจีนไม่มีแผ่ว โควิดระบาดรอบสอง ยอดขายก็ไม่เคยตก!
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในส่วนของกำลังซื้อสลากในช่วงเทศกาลตรุษจีน ถือว่าในช่วงเทศกาลดังกล่าวเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ประชาชนนิยมซื้อสลากมาเสี่ยงโชค และยืนยันว่าในช่วงเวลาปกติแม้กำลังซื้อจะไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกำหนดให้มีการพิมพ์สลาก 100 ล้านใบเท่านั้น และจะไม่มีการพิมพ์เพิ่มขึ้นไปกว่านี้ แต่ยอดการซื้อขายก็ไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด ช่วงที่ผู้ขายสลากซื้อไปจำหน่ายน้อยลง คือ ในช่วงเปิดเทอมการศึกษา เพราะนำเงินไปซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับการเรียนของบุตรหลานเป็นส่วนมาก
นายธนวรรธน์กล่าวต่อว่า แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ไม่มีงวดไหนเลยที่สลากมียอดขายตกลง จะมีแค่บางงวดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์โควิด ยอดรวมจาก 100 ล้านใบ จะมีการซื้อประมาณ 98 ล้านใบ แต่ปัจจุบันยอดจองกลับมาเต็มจำนวนตามปกติแล้ว ส่วนยอดขายของพ่อค้าแม่ค้านั้น จากการสำรวจของกองสลากพบว่ายอดขายไม่ลดลง หรือไม่ได้มีสลากค้างแผงจำนวนมาก เป็นเพียงการค้างแผนตามปกติ ซึ่งผู้ขายจะมีการปรับตัวในช่วงท้ายๆ โดยลดราคาลงนิดหน่อยก่อนการประกาศรางวัล
นายธนวรรธน์กล่าวถึงกรณีประชาชนสามารถแจ้งจับผู้ค้าที่ขายสลากเกินราคา 80 บาท ว่า กองสลากได้กำหนดจับกลุ่มคนที่ขายเกินราคา ซึ่งดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 6 ปีแล้ว แต่ที่เป็นประเด็นขึ้นมาเนื่องจากทางกองสลากได้ประกาศชี้แจงลงกระทู้ในระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งการตั้งรางวัลนำจับเป็นเรื่องปกติ ก่อนหน้านี้ก็มีการแจ้งเป็นปกติอยู่แล้วไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง และหลังจากได้มีการประกาศ ก็ไม่ได้มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาเพิ่มเติมมากนัก แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการที่จะได้รับรางวัลนำจับ ต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของตน ซึ่งต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก่อนจึงจะได้รางวัลนำจับ
นายธนวรรธน์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการคิดค่าธรรมเนียมการขายสลากหรือขายสลากเกินราคา 80 บาท ถือว่ามีความผิดทุกกรณี สามารถดำเนินคดีได้เช่นกัน โดยตีความจากทางกฎหมาย ผู้กระทำผิดดังกล่าวถือมีความผิดทางแพ่งต้องระวางโทษไม่เกิน 1 หมื่นบาท
